เพลง “Delilah”ที่ Tom Jones นำมาร้อง.....แต่งจากเรื่องจริง ที่ไม่เป็นความจริง ?
- วี welove
- 17 มี.ค. 2563
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 9 เม.ย.

หลายคนฟังเพลงนี้ ต้องเดาว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชื่อ “Delilah” และน้ำเสียงที่ร้องออกมาให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ใครจะไปคิดว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับการฆาตกรรม จะเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องแต่งนั้น ผมจะเขียนเล่าให้อ่านกัน
ต้นฉบับเก็บใส่ลิ้นชัก
ต้นฉบับเพลงนี้เป็นของ P.J. Proby บันทึกเสียงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 1967 แต่ไม่ได้เอาลงไปในอัลบั้ม เพราะเจ้าตัวไม่ชอบเพลงนี้ และเดือนถัดมา Tom Jones ก็นำมาร้องบันทึกเสียงจนดังไปทั่วโลก
เวอร์ชั่นของ P.J. Proby (ต้นฉบับ) กว่าจะได้ฟังกัน ต้องรอจนเวลาผ่านไปกว่า 41 ปี เพลงอยู่ในซีดีรวมเพลง ออกโดย EMI ในปี 2008 ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “The Best of the EMI Years” ....และมีคนเอามาลงยูทูปให้ได้ฟังกันง่ายขึ้น
ผมลองฟังดูแล้วแทบไม่ต่างกัน ส่วนที่ต่างกันก็มีแค่ท่อนสร้อย ของต้นฉบับจะร้องว่า “ Eye Yi Yi Delilah” แต่ของ Tom Jones จะเป็น “My my my Delilah” และอีกอย่างที่ต่างกันคือ น้ำเสียงที่ฟังดูแล้ว Tom Jones จะมีพลังเหนือกว่ามาก แต่ของ P.J. Proby จะได้กลิ่นอายของยุคสมัย 60s ชัดเจนกว่าครับ
เรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
เพลงแต่งโดย Les Reed นักดนตรีผู้มีส่วนกับชื่อเพลงนี้ และเป็นผู้กำหนดโครงเรื่องของเพลงออกมาเป็นแนวฆาตกรรม (murder ballad) โดยมี Barry Mason เป็นผู้แต่งคำร้อง เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากความหึงหวง โดยชายหนุ่มทราบว่าแฟนสาว “Delilah” แอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น เมื่อชายคนนั้นกลับไป เขาจึงเข้าไปหาเธอแล้วแทงเธอจนสิ้นใจ
แล้วตกลงว่า Delilah มีตัวตนจริงๆหรือไม่ คนที่ให้คำตอบดีที่สุดคงต้องเป็นคนแต่งเพลงนี้ “Les Reed กับ Barry Mason” ทั้งคู่มีผลงานแต่งเพลงดังๆหลายเพลง อาทิเช่น “The Last Waltz” ที่ร้องโดย Engelbert Humperdinck และ “Kiss Me Goodbye” ของ Petula Clark แต่มีอีกคนที่ออกมาแสดงตัว เป็นผู้ร่วมแต่งเนื้อเพลงนี้ คือ “Sylvan”ภรรยาของ Barry Masonในช่วงเวลานั้น เดี๋ยวเรามาลองฟังคำตอบจากพวกเขาและเธอกัน..
คนหนึ่งบอกเป็นเรื่องจริง
ในปี 2001 Barry เล่าว่า เขาได้เรื่องราวของเพลงจากหญิงสาวที่พบเจอกันในช่วงวันหยุดยาวที่เมือง Blackpool ประเทศอังกฤษ ตอนนั้นเขาอายุ 15 ปี ทั้งคู่มีช่วงเวลาอันน่าประทับใจร่วมกัน จนมาถึงวันที่เธอต้องลากลับ เธอสารภาพว่า เธอมีแฟนแล้ว ทุกอย่างจึงจบสิ้นอยู่ตรงนั้น
หัวใจของ Barry แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่สามารถหลุดพ้นความรู้สึกนั้นออกไปได้ จนถึงขั้นป่วยจากความหึงหวงและความเจ็บปวด เขาจำสีผมเข้มของเธอ นัยตาที่ครุ่นคิด และความซนของเธอได้แม่นยำ ถ้าบอกว่าเธอเป็นสาวชาว Welsh ทุกคนก็ต้องเชื่อแน่นอน (เธอมาจากเมือง Llandudno ซึ่งอยู่ที่เวลส์ทางตอนเหนือ)
Barry ยังจำชื่อเธอได้ เธอชื่อ “Delia” แต่เมื่อเอามาใส่ในเพลงแล้ว จะฟังติดขัดไม่ไพเราะ จึงหยุดไป จนได้มาทำงานร่วมกับ Les Reed จึงได้เปลี่ยนคำจากชื่อ “Delia” มาเป็น “Delilah” ทุกอย่างจึงลงตัวไหลลื่น Barryใส่ทั้งจิตวิญญานและหัวใจลงไปในเพลง ปรับแต่งแต่ละบรรทัดอยู่นานจนเป็นที่พอใจ
อีกคนบอกเป็นเรื่องแต่ง

ส่วนหนังสือพิมพ์ The Sun มีหน้าที่หาข่าว เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นขึ้นมาทันที โดยให้ผู้อ่านช่วยตามหาหญิงลึกลับที่ชื่อ “Delia”จากเมือง Llandudno ซึ่งเป็นหญิงสาวในเพลงนี้ แต่ต้องมาหยุดชะงัก เพราะ Sylvan Mason ผู้แต่งอีกคนออกมายืนยันว่า “Delia” ไม่มีตัวตนจริง
เธอกล่าวว่าท่อนสร้อย "Why, why, why Delilah,"นั้น Les Reed นำมาจากหนังเพลงเรื่อง “Carmen Jones”ในปี 1954 เขาต้องการแต่งเรื่องของ Samson and Delilah ในภาพลักษณ์ใหม่และจบลงอย่างในหนังเพลงเรื่อง “Carmen Jones” พร้อมกันนี้ เธอได้ยกตัวอย่างเนื้อร้อง "I was lost like a slave that no man could free" เธอบอกว่ามันหมายถึงตอนที่ Samson ถูกมัดตัวไว้
ความรู้สึกของ Tom Jones เมื่อได้ฟังต้นฉบับ
มาฟังความเห็นของ Tom Jones เกี่ยวกับเพลงนี้บ้าง เขาให้สัมภาษณ์ The Mail On Sunday ในปี 2011 ไว้อย่างนี้ “ ผมจำได้ดีตอนได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก ผมคิดว่า คงเป็นการร้องบันทึกกันเล่นๆ ผู้จัดการตอบมาว่าใช่...แต่เราจะเอาจริงกัน และผมยังรู้สึกอีกว่า เพลงร้องออกมาราวกับคนร้องกำลังเปล่งเสียงแสดงความยิ่งใหญ่เหนือชั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเพลงเกี่ยวกับฆาตกรรม
เหมือนเพลงที่อยู่ในบรรยากาศผับเก่าๆ เห็นภาพทุกคนยกเหยือกเบียร์แกว่งไปมา มันยอดเยี่ยมมากเวลาขึ้นร้องเพลงนี้บนเวที แค่เสียงเครื่องเป่าตอนเริ่มต้นก็ทำให้คนฟังขยับขากันได้แล้ว ผมยังไม่ได้ร้องเลยสักคำ” Tom Jones กล่าวทิ้งท้าย...
อย่างไรก็ตาม จากทำนองเพลงที่ร้องเป็นจังหวะ และมีท่อนสร้อยที่ฟังแล้วจำง่าย ทำให้คนฟังร้องตามเหมือนกับเรื่องราวไม่มีอะไรน่าตกใจ มักจะร้องตามๆกันอย่างสนุกสนาน "My my my Delilah..."......เพลงวันนี้ในอดีต “Delilah” (1968)
วี welove
17 Mar 2020
ติดตามทางเพจ Facebook
ติดตามทาง Line
ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info
コメント