top of page
Cateม่วง.png

เบื้องหลังเพลง "One of These Nights" : เพลงที่ก้าวล้ำในสายตาของ Glenn Frey

ช่วงที่เพลงจังหวะดิสโก้กำลังได้รับความนิยม ศิลปินหลายต่อหลายคนพยายามตามกระแสดิสโก้เพื่อเอาใจต้นสังกัด แต่สำหรับวง The Eagles แล้ว พวกเขาอยากลองของใหม่ไปอีกทางที่ไม่วิ่งตามกระแส จึงเป็นโอกาสของมือกีต้าร์น้องใหม่อย่าง Don Felder ที่จะแสดงฝีมือให้ปรากฏ


ถ้าอยากรู้ว่าอะไรเป็นเหตุจูงใจทำให้งานเพลงของ The Eagles มีความแปลกใหม่มากกว่าเดิม เราไปฟังทั้ง Don Henley และ Glenn Frey เฉลยคำตอบกันดีกว่า..


ปก One of These Night
One of These Night

เบื้องหลังเพลง "One of These Nights"

Don Henley ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า พวกเขาต้องการเป็นวงคันทรี่ร็อคเล็กๆชั้นดีจากลอสแองเจลิส และอยากหนีห่างจากเพลงแนวบัลลาดและคันทรี่ร็อคแบบพื้นๆบ้าง เพลง One of These Night จึงเป็นคำตอบที่มาพร้อมกับโซโล่กีต้าร์อันยอดเยี่ยมของ Don Felder เป็นเพลงที่ Glenn Frey บอกว่ากัดได้เต็มปากเต็มคำ แม้รอยกัดไม่สวย แต่เสียงร้องเพราะพริ๊งแน่นอน


Don Henley เล่าว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลามืดมนทั้งด้านดนตรีและการเมือง เกิดความวุ่นวายในกรุงวอชิงตัน ดนตรีดิสโก้กำลังแผ่ขยาย พวกเขาจึงคิดว่าจะแต่งเพลงให้ได้อารมณ์นั้นเช่นกัน คือเน้นจังหวะแต่ยังคงให้กีต้าร์เป็นตัวเอกเช่นเดิม


ไม่ใช่คันทรี่ร็อคธรรมดาแบบเดิมๆ

พวกเขาเริ่มงานกันที่ Criteria Studio ในไมอามี่ซึ่งใช้สถานที่สตูดิโอร่วมกับ Bee Gees รูปแบบของกลองเบสจึงเป็นแบบ "four-on-the-floor" ซึ่งนิยมใช้ในจังหวะดิสโก้ โดย Glenn Frey นั่งแต่งเพลงด้วยเปียโน ในขณะที่ Don Henley คิดชื่อเพลงและเขียนเนื้อร้อง ทั้งคู่เข้าถึงงานของแต่ละฝ่ายได้อย่างกลมกลืน


Glenn Frey เล่าว่าเขาแต่งเพลงนี้บนเปียโนหลังจากที่ได้ฟังเพลงของวง Spinners และ Al Green อีกทั้งยังได้โปรดิวเซอร์ที่หลงใหลในแนวเพลง R&B และเคยทำงานเป็นเอ็นจิเนียร์อิสระให้กับเพลง 'Tell It Like It Is' ของ Aaron Neville และเพลง 'The Thrill Is Gone' ของ B.B. King ดังนั้นเพลง One of These Night จึงฟังเหมือนได้อิทธิพลจากแนวเพลง R&B และ Disco อย่างช่วยไม่ได้


หลังจากนั้นก็นำแทร็คที่ทำกันในวันนั้นไปทำต่อที่ลอสแองเจลิส โดยเพิ่มในส่วนของกีต้าร์ทั้งหมดรวมถึงโซโลของ Don Felder ทำออกมาเป็น backing track แล้วนำกลับมาใส่เสียงร้องที่ไมอามี่อีกครั้ง


ทุกอย่างลงตัวจนกลายเป็นเพลงโปรด

Glenn Frey เล่าต่อว่า ถ้าให้เขาเลือกเพลงโปรดของ Eagles สักเพลง ต้องไม่ใช่เพลง Take It Easy หรือแม้แต่เพลง Hotel California ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่ต้องเป็นเพลง One of These Night


"It is my favorite Eagles record. If I ever had to pick one, it wouldn’t be 'Hotel California,' it wouldn’t be 'Take It Easy.' For me, it would be 'One of These Nights.'" - Glenn Frey

เพลงที่หลายๆอย่างเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เป็นเพลงที่ก้าวล้ำ Glenn Frey รู้สึกมีความสุขกับการทำงานในห้องบันทึกเสียง รู้สึกถึงการทำงานที่เข้าขากันเป็นอย่างดีระหว่างเขากับ Don Henley ยิ่งได้เสียงร้องของ Don Henley ที่ร้องได้เข้าถึงจิตวิญญานด้วยแล้ว เขายิ่งรู้สึกมีความสุขเป็นทวีคูณ จึงไม่ต้องแปลกใจที่เขาเป็นคนเสนอให้ Don Henley เป็นคนร้องเพลงนี้เอง


Glenn Frey ถ่ายคู่กับ Don Henley ในปี 1975
Glenn Frey กับ Don Henley ในปี 1975


Don Felder มาเติมเต็ม

เสียงเบสและเสียงกีต้าร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงนี้มาจากไอเดียของ Don Felder ความโดดเด่นที่เข้าถึงอารมณ์ร็อคแอนด์โรลของ Don Felder อีกทั้งยังสามารถเล่นแบนโจและแมนโดลินได้ทำให้เขาชนะใจสมาชิกคนอื่นๆในวง


ยกเว้น Bernie Leadon ที่ค่อยๆถูกลืมจนสุดท้ายไปก่อวีรกรรมกับ Glenn Frey ด้วยการเทเบียร์ราดหัว จนต้องออกจากวงระหว่างการออกทัวร์โปรโมทอัลบั้ม One of These Night และได้ Joe Walsh มาแทนซึ่งเล่นเข้าขากันดีกับ Don Felder จะเห็นได้จากอัลบั้มชุดต่อไปที่พวกเขาไปถึงจุดสูงสุดด้วยอัลบั้ม Hotel California


นอกจากนี้เพลง Vision ในหน้า B ของซิงเกิ้ล One of These Night ยังเป็นเสียงร้องนำของ Don Felder ซึ่งเป็นเพลงเดียวของ The Eagles ที่เขาได้ร้องนำ


ความหมายของเพลง

Glenn Frey เล่าถึงที่มาความหมายของเพลงนี้ว่า

"เรามักจะพูดกันว่า 'สักคืนหนึ่ง (One of These Night) ฉันจะทำโน่นทำนี่ คว้าสาวคนนั้น ทำเงิน ตามหาบ้านหลังนั้น พวเราต่างก็มีความฝันเป็นของตัวเอง และหวังว่าสักวัน ภาพวาดในฝันจะเป็นความจริง 'สักวัน'จะมาเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน"

"We've all said, 'One of these nights I'm gonna do something – get that girl, make that money, find that house,"
"We all have our dreams, a vision we hope will come true someday. When that 'someday' will come is up to each of us." - Glenn Frey


ความสำเร็จของทั้งซิงเกิ้ลและอัลบั้ม

ซิงเกิ้ล 'One of These Night' ออกวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษภาคม ปี 1975 และขึ้นถึงอันดับ 1 ในวันที่ 2 สิงหาคมปีเดียวกัน (ซิงเกิ้ลอันดับ 1 ลำดับที่ 2 ต่อจากซิงเกิ้ล 'Best of My Love')ในขณะที่อัลบั้มชื่อเดียวกันก็ขายได้มากถึง 4 ล้านชุด กลายเป็นอัลบั้มอันดับ 1 อัลบั้มแรกของพวกเขา

ปกอัลบั้ม One of These Night ในปี 1975
อัลบั้ม One of These Night ในปี 1975


แม้จะไกลห่างจากความสำเร็จของอัลบั้มชุดถัดไปอย่าง Hotel California ที่ขายได้มากถึง 26 ล้านชุด แต่อัลบั้มชุดนี้ก็มีความสำคัญเทียบเท่าจนไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะกับเพลง One of These Night เป็นที่สุดแล้วสำหรับ Glenn Frey..เพลงอันดับ 1 วันนี้ในอดีต


ขอบคุณข้อมูลจาก en.wikipedia.org และ ultimateclassicrock.com


วี welove / 2 August 2022 (updated 2023)

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

0 ความคิดเห็น
bottom of page