top of page
Cateม่วง.png

"And I Love Her" ใครอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเพลงนี้..

อัปเดตเมื่อ 21 ก.ค.


วันนี้ (20 July) ในปี 1964 ซิงเกิ้ลเพลง "And I Love Her" ถูกปล่อยออกมา และขึ้นไปถึงอันดับ 12 ในอเมริกา ว่าจะนำเพลงนี้มาคุยให้ฟังสักหน่อย แต่จะนำเสนอเกร็ดเล็กๆส่วนหนึ่งที่นำไปสู่หน้าตาของเพลงนี้ในแบบที่เราคุ้นเคยอยู่ทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามคงต้องมีสักวันที่ผมจะหยิบนำเพลงนี้มาพูดในรายละเอียดอื่นๆอีก เพราะดูจากข้อมูลเชิงลึกอื่นๆแล้ว น่านำเสนอไม่น้อย พอๆกับเพลง Yesterday ที่ผมเพิ่งเปิดผ่านมือไป...คงต้องติดตามกันไปเรื่อยๆ


ปก And I Love Her
"And I Love Her" เมื่อ Paul ชื่นชม Paul

"And I Love Her" เพลงบัลลาดเพลงแรกของ Paul ?

เพลง And I Love Her ไม่ใช่เป็นแค่เพลงเพราะๆช้าๆซึ้งๆของ The Beatles แต่กลายเป็นเพลงที่ทำให้ Paul McCartney กลายเป็นนักแต่งเพลงแนวบัลลาดที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มมาจากจุดนี้ในปี 1964 ลองไปฟังท่านเซอร์ Paulเล่าให้ฟังกัน

"Many Years From Now" เขียนโดย Barry Miles ที่ออกมาในปี 1997
"Many Years From Now"

"เป็นเพลงบัลลาดเพลงแรกที่ผมประทับใจงานของตัวเอง" - Paul McCartney

Paul เล่าไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อ "Many Years From Now" เขียนโดย Barry Miles ที่ออกมาในปี 1997 ซึ่งความคิดเห็นนี้ John Lennon เพื่อนผู้ล่วงลับเห็นด้วย John บอกว่าเพลงนี้แหละ ที่ทำให้มีเพลงอย่าง "Yesterday" ในเวลาต่อมา (1965)


เป็นที่ทราบกันดีในยุคแรกของ The Beatles ทั้ง John และ Paul มักจะร่วมกันแต่งเพลง โดยมีคนหนึ่งเป็นตัวหลัก และอีกคนมาช่วยเสริม แต่สำหรับเพลง And I Love her แทบจะเป็นงานเพลงของ Paul คนเดียว


ส่วน John น่าจะมีเอี่ยวบ้างเล็กน้อยในท่อนกลาง อย่างไรก็ตามตอนที่ Paul นำเพลงนี้เข้าห้องอัด เพลงยังไม่สมบูรณ์แบบครบถ้วน ยังไม่ใช่เพลงในแบบที่เราฟังจนคุ้นหู


เสียงกีต้าร์ขึ้นต้นที่โดดเด่น

ถ้าพูดถึงเพลงนี้แล้ว แทบจะทุกคนจะจำเสียงตัวโน๊ต 4 ตัวตอนเริ่มเพลงได้อย่างแน่นอน ถ้าไม่บอก เราทุกคนต้องมองไปที่ Paul เพราะมีความสามารถในการเล่นกีต้าร์ไม่เป็นรอง George Harrison อย่างแน่นอน


แต่ทราบหรือไม่ว่า...ตัวโน็ต 4 ตัวเด่นชัดนี้ไม่ใช่ไอเดียของ Paul แต่เป็นไอเดียของ George ที่ทำให้เพลง And I Love Her ออกมาในรูปแบบที่เราได้ฟังกันจวบจนทุกวันนี้


"ตอนนั้นพวกเราอยู่ในสตูดิโอกัน เป็นเวลา10 โมงเช้า ทั้ง Ringo และ George เพิ่งได้มีโอกาสได้ฟังเพลง And I Love Her เป็นครั้งแรก"

Paul เล่าให้ฟังในสารคดีเรื่อง "Living in the Material World" ของ George Harrison เขานัดแนะกับ George เรื่องคอร์ด และคุยเกี่ยวกับการเรียบเรียงเพลง หลังจากนั้นทั้งวงจึงเริ่มมาปรับแต่งเพลงกันทีละนิด และมีบ้างที่พวกเขานำเสนออะไรที่คิดไม่ถึงจน Paul ประหลาดใจ แม้ว่าคนอื่นๆเพิ่งจะเคยได้ยินเพลงนี้ก็ตามที


George Harrison ขณะกำลังเล่นกีต้าร์
George Harrison
“On my song, ‘And I Love Her,’ I had ‘I give her all my love.’ But then George comes in with, [humming the opening riff] ‘doo-doo-doo-doo.'” - Paul McCartney

"เพลง And I Love Her ที่เริ่มว่า "I give her all my love" แล้ว George ทำเสียงฮัมท่อนเริ่มเพลงประมาณนี้ 'doo-doo-doo-doo'" - Paul McCartney

ตรงจุดนี้ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทำให้ Paul ทำเพลง "And I Love Her" ออกมาแตกต่างไปจากต้นฉบับ


George กับเพลง And I Love Her
And I Love Her เวอร์ชั่น George

Paul พูดถึง George เพื่อนผู้ล่วงลับว่า George ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่มีส่วนทำให้เพลง And I Love Her เป็นเพลงในแบบที่เรารู้จัก


“You know, he made that up at the session. He nicked the chords and we just said, ‘It needs a riff.’ I didn’t write that!” - Paul McCartney
"พอเสียงกีต้าร์ขึ้นมาแบบนั้น เรารู้เลยว่านั่นคือเพลง 'And I Love Her' นั่นเป็นสิ่งที่ George นำเสนอในห้องอัด ผมไม่ได้คิดขึ้นเอง" - Paul McCartney

Georgeทำให้แปลกใจได้เสมอ

นอกเหนือจากเพลง "And I Love her" แล้ว George ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับอีกหลายเพลงในลักษณะเดียวกันนี้

Tom Petty กอดคอ George Harrison
Tom Petty & George Harrison

Tom Petty เพื่อนนักดนตรีที่สนิทอีกคนของ George เล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่เขาคุยกับ George จู่ๆก็มีสถานีวิทยุแห่งหนึ่งเปิดเพลง "You Can Do That" George บอกว่า เขาเป็นคนคิดท่อนริฟของเพลงนี้ Tom Petty ถามกลับไปว่ามันมาได้อย่างไร George บอกว่า "ผมแค่ยืนคิดอยู่ตรงนั้นว่า ต้องทำอะไรบางอย่าง" เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ Paul กับ Ringo ยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย


บางอย่างไม่จำเป็นต้องมาโดยตั้งใจ

สำหรับสิ่งที่ George ตอบ Tom Petty ไปแบบสั้นๆแต่มีนัยยะ เหมือนจะบอกว่า ลองเล่นให้ฟังไปก่อน ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะเล่นอะไร แต่กลับกลายเป็นดี


เรื่องแบบนี้ถ้าติดตามอ่านเรื่องที่ผมไปตามเก็บมาเขียน หรือมาแปลให้อ่าน จะเจอลักษณะนี้ค่อนข้างเยอะ หลายอย่างที่ไม่ตั้งใจให้เป็น แต่ด้วยสถานการณ์บังคับ จำเป็นต้องยอมทำ หรือเลยตามเลย ปล่อยไปตามกระแส และผลที่ตอบรับ ไม่ใช่จะแย่ไปเสียทุกอย่าง..


บางทีเรื่องราวของเพลง อาจจะดูไร้สาระสำหรับหลายๆคนว่า จะรู้ไปทำไมเรื่องแบบนั้น แต่จริงๆแล้ว มันแฝงไปด้วยแนวคิด แนวทางบางอย่างให้เราจัดการเกี่ยวกับชีวิตของเรา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพียงแต่มันไม่ใช่ทฤษฏีนำมาให้อ่าน แต่กลายเป็นเรื่องเล่าของเพลงที่ผมนำมาเสนอ..


วี welove / 20 July 2020 (updated 2023)


แปลจาก cheatsheet

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

0 ความคิดเห็น
bottom of page