กลับมาทบทวน การใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งกับเพลง "Time" ของ The Alan Parsons Project
top of page
Cateม่วง.png
  • รูปภาพนักเขียนวี welove

ถึงเวลากลับมาทบทวนชีวิตอีกครั้งกับเพลง "Time" ของ The Alan Parsons Project

วันที่โควิดมาเยือนเหมือนทุกคนยืนอยู่ในจุดเดียวกัน เพราะมีผลกระทบต่อการงานของทุกคนอย่างช่วยไม่ได้ ไม่มีใครได้เปรียบมากกว่ากันเหมือนแต่ก่อน คนที่จนที่สุดก็ยังจนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คนที่จนหาเช้ากินค่ำก็จะจนมากขึ้น คนที่พอมีพอกินผ่านไปสัก 3 เดือนก็อาจจะจนลง และจะจนมากขึ้นไปอีก ส่วนคนรวยก็จะรวยน้อยลง และอาจจะใช้ชีวิตแบบพออยู่พอกิน ส่วนพวกเศรษฐีคือกลุ่มคนที่ไม่เดือดร้อนเลย แค่มูลค่าทรัพย์สินลดลง แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ปกติ เพียงแต่ไม่สะดวกสบายเหมือนเดิม แต่นั่นเป็นส่วนน้อยมากๆของประเทศนี้..


มามองที่ตัวเราในวันที่ทุกอย่างเริ่มเป็นปกติ อยากให้นั่งทบทวนการใช้ชีวิตที่ผ่านๆมา ผ่านบทเพลงนี้ "Time" ของ Alan Parsons Project พร้อมอ่านเรื่องราวของเพลงนี้กัน..วันนี้ในอดีต





มุมมองของเพลง

ย้อนวัยกลับไปวันนี้ปี 1981 (พ.ศ.2524) มีซิงเกิ้ลเพลงใหม่ของ Alan Parsons Project เข้ามาในบิลบอร์ด Hot 100 ที่อันดับ 82


เพลงนั้นคือ “Time” หนึ่งในเพลงโปรดของผมในยุค 80s มาจากอัลบั้ม The Turn of a Friendly Card เพลงที่ฟังแล้วเศร้าหดหู่ เป็นมุมมองของชายวัยกลางคนที่มองย้อนกลับไปในอดีต พร้อมๆกับมองชีวิตของตัวเองที่ยังเหลืออยู่ว่า อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป..


"It's kind of a sad song. I think it's been an inspiration for many people who are growing old or have become ill. It gets played at funerals. It's a slightly melancholy song." ("มันเป็นเพลงเศร้า ผมคิดว่ามันเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คนที่กำลังแก่หรือป่วย มันถูกนำไปเล่นในงานศพ มันเป็นเพลงค่อนข้างเศร้า") - Alan Parsons


Alan Parsons Project ผลิตเพลงแต่ไม่เคยแสดงสดตลอดยุค 80s

Alan Parsons ร่วมแต่งเพลงนี้กับ Eric Woolfson เจ้าของเสียงเพลงนี้

Eric Woolfson กับ Alan Parsons

ซึ่ง Alan Parsons กล่าวชมว่า Eric ร้องได้เยี่ยม เพราะเพลงนี้ร้องไม่ง่าย ต้องใช้ช่วงเสียงที่ต่างกันค่อนข้างมาก ส่วนตัว Alan Parsons มีส่วนช่วยร้องประสาน ซึ่งไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะมีส่วนร่วมในการร้อง


ก่อนหน้านั้นในปลายยุค 60s Alan Parsons เคยเป็น engineer ทำอัลบั้มชุด Abbey Road ให้กับ The Beatles (ตอนนั้นเขาอายุ 19 ปี) และอัลบั้ม Dark Side of the Moon ให้กับ Pink Floyd ในต้นยุค 70s


"Alan Parsons Project" เป็นวงที่เล่นประจำอยู่แค่ในสตูดิโอ ดังนั้นในยุคที่พวกเขาโด่งดังสุดขีดพวกเขาไม่เคยออกทัวร์คอนเสิร์ตเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกมาก หลายคนคงเสียดายที่ไม่เคยชมพวกเขาแสดงร้องเพลงให้ฟังสดๆในช่วงที่เพลงของวงได้รับความนิยมสูงสุด กว่าจะออกมาแสดงสดก็ต้องรอจนถึงยุค 90s

Eric [Woolfson, partner in Project] and I didn’t relish the prospect of touring. It is a regret that we didn’t play live, although with the technology then it would have been difficult. ("อีริคและผมไม่ค่อยสนุกกับการออกทัวร์ น่าเสียดายที่เราไม่ได้เล่นสดแม้ว่าด้วยเทคโนโลยีแล้วมันจะยากก็ตาม") - Alan Parsons

และเพลงที่ดังที่สุดของพวกเขาคือเพลง “Eye In The Sky” (ปี 1982) ขึ้นถึงอันดับ 3 ในอเมริกา

ส่วนเพลง “Time” (1981) และเพลง “Old and Wise” (1982) ได้รับความนิยมรองลงมา สูงสุดที่อันดับ 15 บนบิลบอร์ด Hot 100 ทั้งคู่


คลิปล่างเป็นคอนเสิร์ตของ Alan Parsons Project ในปี 2013 ที่โคลัมเบีย ( THE ALAN PARSONS SYMPHONIC PROJECT “LIVE IN COLOMBIA” ) นักร้องในคลิปไม่ใช่ Eric Woolfson เพราะเขาเสียชีวิตตั้งแต่ปลายปี 2009 ในวัย 64 ปี ส่วนมือกีต้าร์ที่ยืนอยู่ข้างหลังสูงเด่นกว่าใครเพื่อนคือ Alan Parsons (ไว้หนวดเครา)



เวลาไม่คอยใคร

ฟังเพลงดูคลิปนี้ไปด้วย ได้อารมณ์พอสมควร อยากให้ดูจนจบ แล้วมองย้อนกลับไปในวันเก่าๆที่ผ่านมา รวมถึงมองอนาคตข้างหน้าว่า ทุกอย่างยังสดใสเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ ต้องรีบหาคำตอบที่ใช่ตั้งแต่วินาทีนี้


ทุกคนมีเวลาเท่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะตั้งสติได้เร็วกว่า อยู่ที่ว่าใครจะฉวยโอกาสได้เร็วกว่า อยู่ที่ว่าใครจะพัฒนาเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆได้เร็วกว่า แทนที่จะมานั่งทนทุกข์กับปัจจุบันและอดีตที่ผ่านมา ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านที่เคยผ่านช่วงเวลายากลำบากให้เดินหน้าต่อไปจนค้นพบความสุขของชีวิตในที่สุดนะครับ


วี welove / 18 April 2020 ( updated 2023/2024)

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

0 ความคิดเห็น
bottom of page