top of page
Cateม่วง.png

วันนี้ในอดีต : ภาพถ่ายปกอัลบั้ม Abbey Road ที่ชวนให้คิด และชวนให้ลอกเลียนแบบ

วันนี้ในปี 1969 (พ.ศ.2512) เวลา 11.35 น. The Beatles มีนัดกับ เอียน แมคมิลลัน (Iian Macmillan) มือกล้องอิสระ เพื่อนของ John กับ Yoko สำหรับการถ่ายภาพปกอัลบั้ม "Abbey Road" ด้านนอกอาคารตึก EMI Studios เราไปค้นหาความสุขของเรื่องราวเหล่านี้กันดีกว่า



ไอเดียเริ่มแรก

แรกเริ่มเดิมทีอัลบั้ม "Abbey Road" จะตั้งชื่อว่า "Everest" ซึ่งมาจากชื่อบุหรี่ที่ Geoff Emerick เอ็นจิเนียร์สูบอยู่เป็นประจำ ภาพปกอัลบั้มที่ทุกคนจินตนาการ คือภาพเงาดำของแต่ละคนตัดกับภาพของภูเขาเอฟเวอร์เรสต์สีขาว ที่ปรากฏอยู่บนซองบุหรี่

ซองบุหรี 'Everest'

ไอเดียจาก Paul

อย่างไรก็ตาม ชื่ออัลบั้ม 'Everest' ไม่ได้ไปต่อ เพราะไม่มีใครอยากเดินทางไปถ่ายทำไกลถึงเนปาล สุดท้าย Paul จึงเสนอไอเดียให้ถ่ายทำปกอัลบั้มใหม่ที่หน้าอาคาร EMI Studios แทน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง โดยใช้ช่วงเวลาระหว่างพักเบรคจากการบันทึกเพลง The End และตั้งชื่ออัลบั้มง่ายๆตามชื่อถนนหน้าตึกว่า "Abbey Road" บทจะง่ายก็ง่ายจนนึกไม่ถึงทีเดียว....


ภาพสเก็ตช์และการถ่ายภาพ

Paul สเก็ตช์ไอเดียภาพปกอัลบั้ม Abbey Road แล้วส่งต่อให้เอียนเพื่อใช้เป็นไอเดียในการถ่ายภาพ เอียนทำการเพิ่มรายละเอียดเข้าไปในรูปสเก็ตช์ของพอลอีกที (ภาพปรากฏอยู่มุมขวาบนของรูปสเก็ตช์)

ภาพไอเดียปก Abbey Road ที่พอลส่งให้เอียนในครั้งแรก

เอียนวางบันไดพับ (step-ladder) ตรงกลางถนน แล้วยืนถ่ายรูปอยู่บนนั้นใช้เวลาเพียง 10 นาทีโดยมีตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกอยู่ข้างหลัง ได้ภาพออกมาทั้งหมด 6 เฟรม หลังจากนั้น Paul ส่องเลือกทีละภาพด้วยแว่นขยาย ภาพที่ถูกเลือกคือภาพเฟรมที่ 5 เพราะทุกคนก้าวเท้าออกมาพร้อมเพรียงกัน เป็นการสื่อให้โลกได้รับรู้ว่า พวกเขากำลังเดินออกจากสตูดิโอที่พวกเขาใช้เวลาอยู่ร่วมกันตลอด 7 ปีที่ผ่านมาในนั้น



ปกอัลบั้ม Abbey Road ของ The Beatles ในปี 1969

รายละเอียดบนปก Abbey Road

ภาพเดินข้ามถนน ทิศทางจากซ้ายไปขวา เริ่มจาก John เดินนำหน้า ตามด้วย Ringo, Paul และ George มีจุดที่น่าสังเกตบนปกอัลบั้มดังนี้ :-

  1. Paul เป็นคนเดียวที่ไม่ได้ใส่รองเท้า โดยอ้างว่าวันนั้นอากาศร้อน และยังก้าวเท้าไม่เหมือนคนอื่น โดย Paul ก้าวเท้าขวานำ ในขณะที่คนอื่นก้าวเท้าซ้ายนำ และ Paul ยังเป็นคนเดียวที่หลับตาเดิน

  2. George เป็นคนเดียวที่ไม่ใส่สูท ส่วนคนอื่นใส่สูทที่ออกแบบโดย Tommy Nutter

  3. ด้านซ้ายมือของปก จะมีรถโฟล์คเต่าจอดอยู่ เป็นของเพื่อนบ้านที่พักอยู่แฟลตตรงข้ามกับสตูดิโอ หลังจากที่อัลบั้ม Abbey Road ออกวางจำหน่าย แผ่นป้ายทะเบียน “LMN281F” ของรถคันนี้ถูกขโมยไป ปัจจุบันรถคันนี้ถูกนำไปวางแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในเยอรมัน ตั้งแต่ปี 2001

  4. ในปี 2004 พอล โคล (Paul Cole) ได้ออกมาแสดงตัวว่าเป็นชายที่ยืนอยู่บนฟุตบาทห่างออกไป ซึ่งปรากฏอยู่ทางขวามือของปกอัลบั้ม ตอนนั้นเขาอายุ 58 ปี (เสียชีวิตในปี 2008 ในวัย 97 ปี)


ความหมายโดยนัย

ส่วนหนึ่งของข่าวลือ "Paul Is Dead"

เป็นเรื่องจนได้ หลังจากที่อัลบั้ม Abbey Road ออกวางจำหน่ายได้ไม่นาน กลุ่มนักศึกษาในอเมริกาได้โยงภาพปกอัลบั้มกับข่าวลือก่อนหน้านั้นที่พูดถึง “Paul is dead” ว่ามีความเป็นไปได้สูง โดยตีความหมายไว้ดังนี้ :-

  1. จากรูปปกทั้ง 4 คนเหมือนกำลังเดินออกมาจากสุสาน โดย John แต่งชุดขาวเหมือนบาทหลวง ส่วน Ringo แต่งชุดดำเสมือนเป็นผู้จัดการศพ Paul เดินด้วยเท้าเปล่าก็เปรียบเหมือนคนที่ตายแล้ว ส่วน George ใส่ชุดกางเกงยีน ภาพลักษณ์ออกมาเหมือนคนขุดหลุมฝังศพ....

  2. ถ้าสังเกตดีๆ มือขวาของ Paul จะหนีบบุหรี่ไว้ ทั้งๆที่ Paul เป็นคนถนัดซ้าย จึงอาจหมายถึงว่า คนที่อยู่ในภาพปกเป็นตัวปลอม เพราะตัวจริงนั้นตายไปแล้ว

  3. ส่วนหมายเลขแผ่นป้ายทะเบียนรถเต่า “28IF” ถูกตีความว่า “ 28- if ” นั่นหมายความว่า ถ้าพอลยังอยู่ เขาจะอายุ 28 ปี (แม้ตอนนั้นพอลจะอายุ 27 ปีก็ตาม)


ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ทำให้เรื่องราวของปกอัลบั้ม "Abbey Road" เป็น Talk of the Town ขึ้นมาทันที มีการถกเถียงออกรายการตามสถานีวิทยุ รายการทีวี ทำให้อัลบั้มชุดนี้ขายดีมากในเวลาอันรวดเร็ว John บอกว่า เรื่องทั้งหมดนี้ไร้สาระ แต่ยกนิ้วให้กับแผนการตลาดครั้งนี้ว่าสุดยอดมาก


บทสรุป

ปกอัลบั้ม "Abbey Road" กลายเป็นภาพปกอัลบั้มที่มีชื่อเสียง และถูกนำเอาล้อเลียนมากที่สุดภาพหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงการแผ่นเสียง มีการทำปกอัลบั้มล้อเลียนมากมาย หนึ่งในนั้นเป็นผลงานของศิลปินชื่อดังอย่าง The Red Hot Chili Peppers ซึ่งใช่ชื่ออัลบั้มว่า The Abbey Road E.P ’ (คลิกดูภาพ) หรือไม่ก็ท่าเดินข้ามทางม้าลายในที่ต่างๆ ใครเห็นก็ต้องไปเปรียบเทียบกับปกอัลบั้ม Abbey Road ทุกครั้งไป......วันนี้ในอดีตกับการเดินข้ามทางม้าลายของ The Beatles


วี welove / 8Aug 21 (แก้ไขจากปี 2019 และ 2020)


ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info


แปล และเรียบเรียง จากเว็บ michaelsmithnews.com และ abbeyroad.com

0 ความคิดเห็น
bottom of page