"You're My Best Friend" เมื่อ Freddie Mercury ถูกท้าทายโดยมือเบสผู้เงียบขรึม

เพลงฮิตเพลงอะไรของ Queen ที่ Freddie ไม่ชอบใจเสียงดนตรี..

มีอยู่เพลงหนึ่งที่ John Deacon มือเบสวง Queen เขียนออกมาเหมือนจดหมายรักที่ส่งถึง Veronica Tetzlaff ภรรยาสุดที่รักอดีตครูฝึกหัดจากเชฟฟิลด์ แต่กลับไม่เป็นที่สบอารมณ์ของ Freddie Mercury เป็นอย่างไรนั้น ผมจะเล่าให้ฟัง..

วันนี้ (31 July) ในปี 1976 เพลง "You're My Best Friend" ขึ้นสูงสุดที่อันดับ 16 บนตารางบิลบอร์ด Hot 100 แม้ว่าซิงเกิ้ลก่อนหน้านั้นของพวกเขาขึ้นถึงอันดับ 2 แต่ก็ถือว่าไม่เลวสำหรับเพลงร็อคเพลงนี้ที่ก้าวข้ามเข้ามาถึง Top 20 ในหมวดเพลงยอดนิยม เราไปตามอ่านเบื้องหลังของเพลงนี้กันดีกว่า

เป็นที่ทราบกันในหมู่แฟนเพลงของวง Queen ว่า John Deacon เป็นสมาชิกวงที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงมากสักเท่าไร แต่เมื่อไรที่เขานำเสนอเพลงขึ้นมา มักจะทำให้สมาชิกวงคนอื่นๆต้องประหลาดใจ ผลงานเพลงที่ออกมาทำให้แฟนเพลงฮือฮาได้ไม่น้อย อย่างที่ Brian May เคยพูดไว้

"จอห์นแต่งเพลงไม่มาก แต่ว่าแต่ละเพลงที่เขาเขียนอย่าง 'Another One Bites the Dust' และ 'I Want To Break Free' ล้วนแต่เป็นเพลงฮิตสุดบรรยาย จอห์นเปรียบเหมือนม้ามืดมาแรงแซงโค้ง ทั้งที่ดูไม่มีอะไรบ่งบอกว่าจะทำได้ เพราะจอห์นจะเป็นคนเฉยๆ ไม่พูดไม่จา พวกเราจึงต้องคอยถามเขาเป็นบางครั้งว่า มีอะไรจะนำเสนอไหม และเมื่อเขานำเสนอ จอห์นจะรู้สึกประหม่ากับผลงานของเขามากๆ"

ตอนที่ Queen เริ่มประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมมากมายในปี 1975 ก็ตอนที่พวกเขาบรรจุเพลง "Bohemian Rhapsody" ลงไปในอัลบั้มชุดที่ 4 "A Night at the Opera."

หลังจากนั้นพวกเขาเล็งหาผลงานฮิตเพลงต่อไปจากอัลบั้มเดียวกันนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าเพลง "I'm In Love With My Car." ของ Roger Taylor มือกลองจะได้รับเลือก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นผลงานเดียวของ John Deacon ในอัลบั้มชุดนี้ที่ถูกเลือก โรเจอร์แอบน้อยใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ไม่เห็นด้วยเสียทีเดียว เขาพูดถึงเพลงนี้ว่า

"ผมไม่มีปัญหากับเพลงนี้ มันเป็นเพลงรักแรก ไม่จริงจังอะไร แต่มันก็เป็นเพลงฮิตได้อย่างสบาย และเช่นเดียวกันกับเพลง "Another One Bites The Dust" ของจอห์น เพียงแต่เพลงนี้ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเพลงฮิต"

แต่คนที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้เพลง You're My Best Friend เป็นซิงเกิ้ลถัดไป ก็คือ Freddie Mercury เขาไม่ชอบใจที่จอห์นเลือกอิเลคทริกเปียโน Wurlitzer EP-200 เพื่อใช้กับเพลงนี้ และก็ไม่ยอมเล่นเปียโนตัวนี้ให้ด้วย (ในคอนเสิร์ต เฟร็ดดี้จะเลือกเล่นเพลงนี้ด้วยแกรนด์เปียโนตัวเก่งของเขา)

"I refused to play that damn thing, It's tiny and horrible and I don't like them. Why play those when you have a lovely superb piano." - Freddie Mercury

(ฉันปฏิเสธที่จะเล่นของพวกนี้ มันดูเล็กมากและน่าขนลุก และฉันไม่ชอบมันด้วย จะเล่นทำไมในเมื่อคุณมีเปียโนตัวดีเลิศน่ารักอยู่แล้ว)

จอห์นรู้ว่าเฟร็ดดี้ไม่ชอบเสียงเปียโนไฟฟ้าตัวนี้ซึ่งเป็นที่นิยมในตอนนั้น ศิลปินดังอย่าง Stevie Woder และ Steely Dan ก็เคยนำไปใช้กับงานเพลงของพวกเขา และเมื่อจอห์นต้องการแต่งเพลงใหม่กับเปียโนไฟฟ้าตัวนี้ เขาเลยขอให้เฟร็ดดี้ช่วยเล่น แต่เฟร็ดดี้ยืนกราน เขาจึงหิ้วกลับไปฝึกเล่นที่บ้าน

การแต่งเพลงโดยใช้เครื่องดนตรีนำ จึงทำให้เพลง "You're My Best Friend" เข้ากับเปียโนไฟฟ้าตัวนี้ดีมากสมความตั้งใจของจอห์น เขาจึงไม่สนว่าเฟร็ดดี้จะชอบหรือไม่ แต่เขามั่นใจว่ามันต้องถูกใจคนฟังแน่นอน และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคิดถูก เมื่อเพลงขึ้นอันดับสูงสุดที่อันดับ 7 ในอังกฤษ และกลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลของพวกเขาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทำให้อัลบั้ม "A Night at the Opera." ขายดิบขายดีตามไปด้วย ขายได้เกิน 1 ล้านชุด.. John Deacon นายแน่มาก..

หลังจากที่ Queen ตัดสินใจเลือกเพลง You're My Best Friend เป็นซิงเกิ้ลถัดไปต่อจากเพลง Bohemian Rhapsody ทางวงก็เตรียมถ่ายทำวิดีโอเพื่อโปรโมท

พวกเขาใช้ผู้กำกับ "Bruce Gowers" คนเดียวกับที่ทำมิวสิควิดีโอเพลง Bohemian Rhapsody และครั้งนี้ไปถ่ายทำกันในบริเวณยุ้งข้าวใกล้ๆฟาร์มหมู แต่เนื่องใช้แสงสว่างจากเทียนประกอบฉากหลายร้อยเล่ม การถ่ายทำจึงร้อน และมีฝูงแมลงมารบกวนตลอดการถ่ายทำ

อย่างที่เกริ่นไว้ว่าเพลงนี้ John Decon ตั้งใจเขียนให้กับ Veronica Tetzlaff ภรรยาสุดที่รัก ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันตอนต้นปี 1975 จอห์นไม่รีรอที่จะบอกเธอว่า "You make me live" และ "You're all I see". (เธอทำให้ผมมีชีวิตอยู่และคุณคือทุกอย่างที่ผมเห็น) ด้วยพลังแห่งความรักที่มีต่อเธอ จอห์นจึงคิดอยากซื้อบ้านให้เธอ เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุข

ทั้งบ้านและเพลงนี้กลายเป็นพยานรักของ John Deacon และ Veronica Tetzlaff ทั้งคู่ยังครองรักกัน และอยู่บ้านหลังนั้นที่เขต Putney กรุงลอนดอนนับตั้งแต่ที่ซื้อมาในปี 1975 พร้อมกับลูกๆอีก 6 คนที่โตมาจากบ้านหลังนั้น John Deacon นับว่าศิลปินชื่อดังอีกคนที่เป็น Family Man ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และมีทรัพย์สินราว 6000 ล้านบาท..

เฟรดดี้เล่าให้ฟังว่า:-

"พวกเรามีอัลบั้มที่ขายดี แต่พวกเราก็ยังคงอยู่ในแฟลตโทรมๆ ห้องใต้ถุนตึกเช่าสัปดาห์ละ 50 ปอนด์"

ความตั้งใจครั้งนี้ของจอห์นจึงเป็นจุดเปลี่ยนทำให้ Queen กลับมาทบทวนสัญญาที่ทำก่อนหน้านี้อีกครั้ง เพราะจอห์นต้องการเงินล่วงหน้าเพื่อซื้อบ้านแต่กลับถูกปฏิเสธ เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ Queen จะปล่อยอัลบั้ม "A Night At The Opera" (21 พ.ย. 1975) ออกมา

ในที่สุด John Deacon จึงกลายเป็นผู้ดูแลการเงินและที่ปรึกษาทางธุรกิจหลักให้กับวงในเวลาต่อมา แม้ว่า John Reid จะมาเป็นผู้จัดการวงคนใหม่ก็ตาม เฟรดดี้เล่าว่า:-

"John Deacon คอยดูแลธุรกิจของเราทั้งหมดอย่างใกล้ชิด เขารู้ทุกอย่างอะไรที่ควรและอะไรที่ไม่ควร ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นพวกเราจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้นจนกว่าจอห์นจะบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย"

เรื่องทั้งหมดเกี่ยวโยงกันมาตั้งแต่เรื่องความรัก เรื่องการแต่งเพลง การสร้างครอบครัว จนถึงการบริหารการเงินของวง ไม่น่าเชื่อทุกอย่างเป็นจิ๊กซอว์ที่เสริมต่อกันมาจนเป็นรูปเป็นร่างจากเพลงๆนี้ "You're My Best Friend"

ขอบคุณข้อมูลจาก musictimes.com

วี welove / 31 May 2022

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info