วี welove

29 พ.ค. 20231 นาที

เมื่อ"Van Halen" มีค่าตัวแพงที่สุดจากการแสดงเพียงรอบเดียว วันนี้ในอดีต (1983)

อัพเดตเมื่อ: ม.ค. 20

วันนี้ในปี 1983 (พ.ศ.2526) Van Halen สร้างสถิติใหม่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดจากการโชว์เพียงครั้งเดียวที่ค่าตัว $1.5 ล้าน ซึ่งทาง Guinness Book of World Records ต้องตั้งหมวดหมู่ใหม่ขึ้นมาในปี 1984 สำหรับการบันทึกครั้งนี้ว่า "the highest amount paid to an act for a single performance"

Van Halen กับที่มาของค่าตัวสูงสุด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่สอง (29 May) ของงานเทศกาลคอนเสิร์ต "US'83 Festival" ที่สวน "Glen Helen Regional Park" เมือง Devore รัฐ California ซึ่งจัดเป็นวันสำหรับ "HEAVY METAL DAY" โดยเฉพาะ โดยมีผู้เข้าชมร่วม 375,000 คน มากที่สุดในการจัดทั้งหมด 3 วัน (วันแรกเป็น "New Wave Day", วันที่สามเป็น "Rock Day")

วงที่มาเข้าร่วมการแสดงในวัน "Heavy Metal Day"ได้แก่ Mötley Crüe, Quiet Riot, Judas Priest, Ozzy Osbourne, Scorpions, Triumph และ Van Halen เห็นแต่ละชื่อแล้ว ขาร็อคจะพลาดได้อย่างไร ไม่แปลกที่มีคนดูมากมายขนาดนั้น

สาเหตุที่ Van Halen ได้ค่าตัวสูงสุดในงานนี้ เพราะทางวงรู้มาว่า David Bowie ศิลปินที่จะมาโชว์ในวันที่สามของงานได้ค่าตัวสูงสุดที่ $1 ล้านเท่าพวกตน จึงขอเจรจากับทางผู้จัด เพราะส่วนหนึ่งของสัญญาว่าจ้างระบุว่าพวกเขาต้องเป็นวงที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดในงานนั่นเอง...Steve Wozniak จึงเพิ่มพิเศษให้พวกเขาอีก $500,000 เป็น $1,500,000 ทุกอย่างจึงลงเอยแแบบชื่นมื่นทุกฝ่าย

แต่ก่อนหน้านั้นก็มีประเด็นแบบเดียวกันนี้กับวง The Clash ที่มีคิวเล่นวันแรกในวัน "New Wave Day" พวกเขาขู่ผู้จัดงานว่าจะไม่มาร่วมงานนี้ เพราะพวกเขาได้เงินค่าจ้างน้อยกว่าวง Van Halen ครึ่งต่อครึ่ง (วง The Clash ได้ $500,000) แต่สุดท้ายก็ยอมเล่น ถือสุภาษิตที่ว่า "กำขี้ดีกว่ากำตด"

แต่พอขึ้นเวทีก็ดันไปแขวะเจ้าของงานบนเวทีว่า "The Clash Not For Sale" ประมาณว่า "วง The Clash เหมือนมาเล่นให้ฟรีๆ" ผู้จัดงานเลยแก้เผ็ดยิงภาพขึ้นจอ เป็นยอดเช็ค $500,000 สั่งจ่ายวง The Clash..ให้เห็นกันทั้งงาน ทำเอาทางวงช็อคไปพอสมควร นี่ถ้าตอนนั้นรู้ว่า จริงๆแล้ว Van Halen ได้มา $1,500,000 พวกเขาคงช็อคตายคาเวทีเป็นแน่แท้..

Steve Wozniak โต้โผใหญ่

Van Halen กว่าจะได้ขึ้นเวที แฟนๆต้องรอนานถึง 3 ชั่วโมง อีกทั้ง David Lee Roth นักร้องนำก็อยู่ในสภาพไม่เต็มร้อย (คลิปด้านล่าง นาทีที่ 23.50 เดวิดโชว์ดื่มเหล้าจากขวดบนเวที) แทบจะจำเนื้อเพลงไม่ได้ด้วยซ้ำ Steve Wozniak เจ้าของงานคอนเสิร์ตครั้งนี้เล่าความทรงจำในครั้งนั้นว่า

"เดวิดแทบจะล้มลงบนเวที เขาเมามาก พูดอ้อแอ้ ลืมเนื้อเพลง ลืมทุกอย่าง" (“practically falling down onstage. He was so drunk, slurring and forgetting lyrics and everything.”) - Steve Wozniak

Steve Wozniak คือผู้ร่วมก่อตั้ง Apple คู่หูของ Steve Jobs นั่นเอง งานนี้แกเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ จัดงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน สตีฟจ่ายให้กับสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมของงานครั้งนี้ $1ล้าน และจ่ายค่าตัวของศิลปินทั้งหมดในงานนี้ด้วย โดยเก็บค่าบัตรเพียง $20 /คน/วัน

Steve Wozniak กับ David Lee Roth (Van Halen)

เทียบกับ Woodstock

งานนี้จะว่าไปแล้วคล้ายๆกับงานเทศกาล Woodstock ในปี 1969 เพราะหลายคนต้องจอดรถทิ้งไว้ระหว่างทางเพื่อเดินเข้ามาในงาน เนื่องจากรถติดยาวมาก และศิลปินที่มาร่วมงานต้องเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์

มีผู้เสียชีวิตระหว่างงาน 2 ศพ (เสพยาเกินขนาด/ถูกรุมทำร้าย) และมีผู้บาดเจ็บในงานกว่า 1,600 คน และถูกจับกุมอีก 87 ราย ในจำนวนนี้มี 2 คนถูกจับในข้อหาฆาตรกรรม..วันนี้เอามาเล่าสู่กันฟัง เพื่อย้อนอดีตความทรงจำในยุค 80s ให้กับเหล่าแฟนเพลง Heavy Metal ได้รู้สึกมีความสุขเก่าๆกันอีกครั้ง

ขอปิดท้ายด้วยประโยคที่แสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกของ Vince Neil นักร้องนำ "Mötley Crüe" พูดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า :-

"วันที่นิวเวฟตายสนิท และร็อคแอนด์โรลกำชัย" “It was the day new wave died and rock ‘n’ roll took over.”

แม้ในงานนี้ สื่อจะลงข่าวเชิงลบในวันที่สองของงานในวัน "Heavy Metal Day" แต่ผลตอบรับจากผู้ชมทั้ง 3 วันบอกได้เลยว่า ผู้เข้าชมกระหายแนวเพลงเฮฟวี่เมทัลอย่างเห็นได้ชัด และก็จริงตามนั้น เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปีกระแสแนวเฮฟวี่เมทัลก็สู่ยุคเฟื่องฟู ส่วนกระแสนิวเวฟก็ซาลงสวนทางกันอย่างชัดเจน..วันนี้ในอดีต

วี welove / 29 May 2021(updated 2023)

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

    17