วี welove

26 เม.ย. 20202 นาที

"The Beatles" กว่าจะก้าวข้ามกำแพงเมืองลุงแซม (ตอนที่ 2)

อัพเดตเมื่อ: 15 ธ.ค. 2023

ตอนที่แล้ว พูดถึงกำแพงเหล็ก 3 ชั้นที่ก่อตัวขึ้นเงียบๆในอเมริกา และทำให้การเจรจาของ George Martin, Brian Epstein กับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Capital Recordsต้องล้มเหลวถึง 2 ครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ผมจะย้อนเล่าให้ฟังในตอนนี้

George Martin อาศัยเส้นสายจาก Joseph Lockwood เจ้าของ EMI ที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ใน Capital Records เพื่อเข้าพบ Jay Livingstone นายใหญ่ Capital Records ในอเมริกา George Martin นำเสนอซิงเกิ้ลเพลง “Please Please Me” ที่กำลังได้รับความนิยมมากอยู่ในอังกฤษ เพื่อมาทำตลาดในอเมริกา แต่ถูกปฏิเสธ โดย Jay Livingstoneให้เหตุผลว่า เพลงของThe Beatles ไม่เหมาะกับตลาดอเมริกาในขณะนั้น (“We don’t think the Beatles will do anything in this market.”) ซึ่งวงใหม่สัญชาติอเมริกันอย่าง The Beach Boys กำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น

แพ้ยกแรก แต่ก็มีดีให้จดจำ (ครั้งที่ 1)

George Martin กลับมาด้วยความผิดหวัง เขาเดินหน้าต่อเพื่อจะบุกตลาดอเมริกาให้ได้ แต่ก็ถูกทาง Atlantic Records ปฏิเสธอีกเช่นเคย จนสุดท้ายมาจบที่ Vee- Jay Records บริษัทเล็กๆในชิคาโก ซึ่งมีแผ่นซิงเกิ้ล Top 5 อย่าง “I Remember You” ของ Frank Ifield อยู่ในมือ

Vee-Jay วางจำหน่ายแผ่นซิงเกิ้ล “Please Please Me” ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 1963 ( 1 ปีก่อนที่ The Beatles จะบินมาอเมริกาครั้งแรกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 1964) ถือเป็นซิงเกิ้ลแรกของ The Beatles ที่จำหน่ายในอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยมีเพลง Ask Me Why อยู่หน้า B

ที่น่าจดจำสำหรับซิงเกิ้ลชุดนี้ คือชื่อวงสะกดผิดเป็น “The Beattles” แม้จะแก้ไขถูกต้องในล็อตต่อไป แต่ล็อตนั้นกลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมและมีมูลค่าสูง อีกจุดหนึ่งที่ไม่เหมือนแผ่นซิงเกิ้ลของ The Beatles ทั่วๆไป ก็คือบนป้าย label จะพิมพ์ชื่อคนแต่งเป็น “J. Lennon - P. McCartney” (ชมภาพ)

อย่างไรก็ตามซิงเกิ้ลเพลง “Please Please Me” ไม่สามารถเข้าสู่ Hot 100 ได้ ขายได้เพียง 7,310 ชุดในอเมริกาซึ่งเป็นยอดขายระดับท้องถิ่นเท่านั้น หรือสิ่งที่นายใหญ่ของค่าย Capital Records พูดไว้จะเป็นจริง ที่ว่าเพลงของ The Beatles ไม่เหมาะกับวัยรุ่นอเมริกัน เราไปดูกันต่อไป.......

"ค่ายเล็กไม่เข็ด จะขอลองใหม่"

แม้จะผิดหวังกับซิงเกิ้ลแรกของ The Beatles ในอเมริกา แต่ห้าง Vee- Jay Records ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป เลือกซิงเกิ้ลเพลง “From Me To You” ออกสู่ตลาดอเมริกาเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 ในเดือนพฤษภาคม

โดยมีเพลง Thank You Girl อยู่หน้า B แม้นิตยสาร Cashbox จะเชียร์ให้เป็น “Pick of the Week” แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ยอดขายไปได้น้อยกว่า 4,000 ชุด น้อยกว่าซิงเกิ้ล "Please Please Me" เสียอีก....

และฉลากหน้าแผ่น เครดิตชื่อคนแต่งพิมพ์เป็น "McCartney-Lennon" (ชมภาพ) ซึ่งชื่อนี้ยังปรากฏอยู่ในเครดิตทุกเพลงบนอัลบั้มแรกของ The Beatles "Please Please Me"อีกด้วย และหลังจากนั้นทุกเพลงของ The Beatles เครดิตจึงเปลี่ยนเป็น "Lennon-McCartney"

จุดประกายเล็กๆ

ในช่วงเวลานั้น Del Shannon ศิลปินชาวอเมริกัน เจ้าของเพลง “Runaway” ได้นำเพลง “From Me To You”มาร้องตัดเป็นซิงเกิ้ล

ปรากฎว่าขายดีกว่าต้นฉบับ เข้าสู่ Hot 100 ได้สำเร็จ ไปไกลสุดที่อันดับ 77 ทำให้เพลง “From Me To You” กลายเป็นผลงานแรกในนาม “Lennon - McCartney” ที่เข้าสู่ Hot 100 ในอเมริกาได้สำเร็จ เพียงแต่ไม่ใช่จากเสียงร้องของ The Beatles

ทาง Vee-Jay จึงใช้โอกาสนี้อีกครั้งในการโปรโมทซิงเกิ้ล “From Me To You” โดยครั้งนี้ประทับตราบนแผ่นว่า “The Original Hit” ซึ่งก็ขายดีขึ้น แต่ก็ไม่มาก

จนกระทั่งได้ดีเจ Dick Biondi นำเพลง "From Me To You" มาเปิดบนคลื่นเอเอ็ม WLS ในชิคาโก และพอย้ายมาอยู่อีกคลื่นที่ KRLA 1110 ในลอส แองเจลิส เขาก็ติดแผ่นนี้ตามมาด้วย

ดีเจ Dick Biondi

แค่เห็นแสงรำไร

Dick เปิดบ่อยจนมีผลต่อยอด airplay ทำให้เพลง "From Me To You" ของ The Beatles เป็นที่รู้จักของคนอเมริกันในระดับหนึ่ง และสุดท้ายเข้าสู่ Billboard ได้สำเร็จ แต่อยู่ต่ำกว่า Hot 100 ที่อันดับ 116

นับเป็นครั้งแรกที่มีเพลงของ The Beatles อยู่ในตารางอันดับเพลง Billboard 200

ส่งผลให้ยอดขายพุ่งขึ้นมาที่ 22,000 ชุด มากกว่าซิงเกิ้ล “Please Please Me”ถึง 3 เท่าตัว แต่นั้นก็ไม่เพียงพอสำหรับ Vee-Jay ที่จะได้ไปต่อ เพราะเริ่มมีปัญหาขาดส่งค่าลิขสิทธิ์

George Martin / Brian Epstein จึงต้องหันกลับไปคุยกับนายใหญ่ค่าย Capital Records อีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ด้วยเพลงที่ขายดีที่สุดในอังกฤษอย่าง "She Loves You" ( เป็นเพลงที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของ The Beatlesในอังกฤษ).......จะ "Yes"หรือ "No" อ่านต่อตอนหน้า พร้อมกับสิ้นสุดเส้นทางสู่ฝันของพวกเขาในตอนจบ......

วี welove / 26 April 20

ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ (ด้านล่าง)

ติดตามทางไลน์ คลิกปุ่ม"เพิ่มเพื่อน"(ด้านบน)

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

    41