วี welove

2 มี.ค. 20231 นาที

Seasons In The Sun แด่เพื่อนผู้จากไปของ Terry Jacks

อัพเดตเมื่อ: ม.ค. 26

วันนี้จะมาพูดถึงเพลง 'Season In The Sun' ของ Terry Jacks หนึ่งในเพลงยอดฮิตของคนไทยในยุค 70s ซึ่งเป็นเพลงอันดับ 1 วันนี้ (2 March) ในปี 1974 บนบิลบอร์ด Hot 100 เพลงที่ฟังแล้วสามารถร้องท่อนฮุคตามได้สบาย ๆ แต่ปัจจุบันแทบไม่ค่อยเห็นมีใครเอาเพลงนี้มาเล่น น่าแปลกมาก แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่า ก็คือเรื่องราวที่มาของเพลงนี้มีความสลับซับซ้อนมาก เป็นอย่างไรนั้น เราไปตามอ่านกัน..

The Beach Boys กับโอกาสที่หายไป

ต้นฉบับเพลงนี้เป็นภาษาฝรั่งเศสเขียนไว้ในปี 1961 ใช้ชื่อเพลงว่า 'Le Moribond' (The Dying Man) แต่งโดย Jacques Brel นักแต่งเพลงชาวเบลเยี่ยม

ต่อมาในปี 1964 วง The Kingston Trio ได้นำเพลงนี้มาร้องเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก (clickฟัง) และเวอร์ชั่นนี้เองที่ Terry Jack นักร้องดังจากแคนาดาต้องการเอามาทำต่อโดยให้เพื่อนๆวง The Beach Boys คัฟเวอร์เพลงนี้ เพราะเห็นว่าเสียงร้องของ Carl Wilson กับเสียงประสานของวงต้องออกมาดี โดย Terry จะรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้

แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นมาจนได้ เนื่องจากงานนี้ทำกันที่บ้านของ Brian Wilson หนึ่งในผู้ก่อตั้งวง The Beach Boys ไบรอันจึงใช้เวลาในการทำเพลงนี้ไปเรื่อยๆ และมีเวลาคิดไปเรื่อยเปื่อย อีกทั้งยังทำตัวเป็นโปรดิวเซอร์โดยไม่รู้ตัว ทำให้ใช้เวลาในการทำเพลงนี้นานเกินไป

เทอรี่เล่าว่า "งานไม่ยอมจบสักที เมื่อหมดวันไบรอันมักจะมีไอเดียใหม่ๆผุดขึ้นมาตลอด แต่ต้องรออีกวันเพราะเอนจิเนียร์กลับกันหมด เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” สุดท้ายเทอรี่จึงดึงงานชุดนี้กลับไปทำเอง เราลองไปฟัง เวอร์ชั่นของ The Beach Boys ที่อัดทิ้งไว้แต่ไม่ได้ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ

เพลงมอบแด่เพื่อนผู้จากไป

เพื่อนรักของเทอรี่ป่วยเป็นโรคลูเคเมีย เขาบอกเรื่องนี้กับเทอรี่เป็นคนแรก แพทย์ลงความเห็นว่าเขาน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน แต่แค่เพียง 4 เดือนเพื่อนคนนี้ก็จากไป เทอรี่จึงคิดถึงเพลง "Seasons In The Sun" เพราะมีเมโลดี้ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ในนั้น เขาปรับแต่งเนื้อเพลงจนเข้ากับเรื่องราวของเพื่อนคนนี้ แล้วทำเพลงออกมาใหม่ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใส่ชื่อตัวเองในฐานะผู้ร่วมแต่ง เพราะไม่คิดว่าเพลงนี้จะดังมากมายขนาดนั้น

ความสำเร็จเกินคาด

ในแคนาดาซิงเกิ้ลถูกโปรโมทโดย 'Goldfish Records' ค่ายเล็กซึ่งเทอรี่เป็นเจ้าของเอง ปรากฏว่าทำยอดขายสูงถึง 285,000 แผ่นในสัปดาห์แรก เป็นสถิติสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในแคนาดา สร้างความประหลาดใจให้กับเทอรี่เป็นอย่างมาก

ค่าย Bell Recordsได้กลิ่นความสำเร็จนี้ จึงบินมาขอซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำมาจำหน่ายในอเมริกาในช่วงวันวาเลนไทน์ปี 1974 และก็ไม่ผิดหวัง สามารถทำยอดขายมากกว่า 3 ล้านแผ่น เพลงสามารถขึ้นถึงอันดับ 1 ทั้งในอังกฤษและอเมริกา โดยอยู่อันดับ 1 บน Billboard Hot 100 นาน 3 สัปดาห์ กลายเป็นแผ่นเสียงทองคำแผ่นแรกของค่ายเพลง Bell Records และมียอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 6 ล้านแผ่น
 

ความหมายเพลงดั้งเดิม

หลังจากที่ซิงเกิ้ลออกวางขาย เทอรี่ได้ไปเยือนกรุงบรัสเซลส์ และได้มีโอกาสร่วมดินเนอร์กับแจ็ค ( Jacques Brel ) ผู้แต่งเพลงต้นฉบับ ตอนนั้นเขาไม่ได้ทำงานอะไรแล้วทั้งๆที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นในอาชีพการทำงาน ทำให้แฟนเพลงต่างประหลาดใจ หลังจากนั้นอีก 6 ปีเขาก็จากไปในวัย 49 ปีด้วยโรคมะเร็งในปี 1978

การพบกันครั้งนี้ทำให้เทอรี่ทราบความหมายที่แท้จริงของเพลงนี้ เพลงพูดถึงชายชราที่กำลังตรอมใจ ใจแตกสลาย เมื่อรู้ว่าเพื่อนสนิทมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับภรรยาของตัวเอง เขาจึงร่ำลาบาทหลวง เพื่อนสนิท และภรรยาที่นอกใจเพื่อลาตาย

“Good Bye” ปรากฏอยู่ในเนื้อร้องแต่ละท่อน แต่ท้ายที่สุดชายแก่ก็ยอมยกโทษให้ภรรยา เพราะที่ผ่านมาเธอทำให้ชีวิตเขาไม่เหงา แม้ชายชู้จะเป็นเพื่อนสนิทของเขาก็ตาม..


เป็นไงครับ จริงๆเรื่องราวยังมีโยงใยอีกมาก แต่คิดว่าคงพอแค่นี้ และก่อนจะจบเรื่องของ Terry Jack ผมอยากแนะนำเพลงที่เทอรี่กับภรรยาของเขา Susan Jack ร้องเล่นกันและโด่งดังก่อนที่จะมาดังด้วยเพลงนี้ เพลงนั้นคือเพลง 'Which Way You Goin’ Billy' ออกมาในนาม “The Poppy Family” ขึ้นถึงอันดับ 2 บน Hot 100 ในปี 1970 ผมฟังแล้ว เพลงน่ารักดี ลองกดฟังดูนะครับ

ส่วน Susan Jack ก็มีผลงานเพลงที่เรารู้จักกันดี แต่ดูเหมือนจะจางหายไปกับกาลเวลาเช่นกัน ผมนำกลับมาให้ฟังกันอีกครั้ง เพลงนั้นคือ 'You Don't Know What Love Is' ลองเปิดฟังดู รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

วี welove / 2 March 20 (update 2023)

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

    52