วี welove
12 ก.ค. 20232 นาที
อัพเดตเมื่อ: ม.ค. 20
ซึ่งจัดหลายแแห่งทั่วโลก โดยการแสดงหลักมีอยู่ 2 ที่ คือที่สนามกีฬา JFK รัฐฟิลาเดลเฟีย ในอเมริกา (90,000 คน) กับที่สนามเวมบลีย์ในอังกฤษ (72,000 คน) และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก 130 ประเทศ ซึ่งมีผู้ชมผ่านจอทีวีร่วม 1.9 ล้านคน
ฉากที่เราติดตามาจากหนังเรื่อง Bohemian Rhapsody ก็เป็นการแสดงที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ซึ่งวง Queen ทำให้โลกได้เห็นหนึ่งในการแสดงสดที่ดีที่สุดของโลก โดยใช้เวลาเพียงแค่ 21 นาที
พวกเขาแทบจะบดบังความเด่นดังของศิลปินคนอื่นๆในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็น Sting, U2, Dire Straits, The Who, Elvis Costello, Elton John และ George Michael
แม้ว่าในช่วงแรกๆพวกเขาจะมีปัญหาในการเข้าร่วมงานนี้อยู่บ้าง แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็กลายเป็นเพชรเม็ดงามของงานนี้ไป ไบรอัน เมย์มือกีต้าร์บอกเพียงว่า พวกเขาลังเลใจมาก ที่จะเข้าร่วมงานนี้ในตอนแรก
หลังจากที่วง Queen รับปากจะมาช่วยงานครั้งนี้ ทั้ง 4 คนก็ได้จองโรงหนัง Shaw ใกล้ๆสถานีรถไฟ King’s Cross ไว้เป็นที่ซักซ้อม พวกเขาใช้เวลาร่วมกันตลอดหนึ่งอาทิตย์ เพื่อซ้อมเพลงตามลิสต์เพียงแค่ 5 เพลง ( แต่แสดงจริง 6 เพลง)
ถึงแม้ว่างานนี้พวกเขาต้องเล่นช่วงที่ฟ้ายังสว่างอยู่ ซึ่งพวกเขาไม่ค่อยคุ้นเคยนัก และไม่มีเวลาซาวด์เช็ค แต่พวกเขาก็ยินดีรับเล่นงานนี้ เพียงเพื่ออยากพิสูจน์ตัวเองว่า พวกเขาเป็นวงที่เล่นสดได้ยอดเยี่ยมวงหนึ่ง
บ๊อบ เกลดอฟให้โจทย์ทุกวงว่า ไม่ควรจะเล่นเพลงฮิตใหม่ๆ แต่ควรเล่นเพลงเก่าๆที่พวกเขาชื่นชอบ และแน่นอนว่าวง Queen ได้ทำการบ้านมาดีมาก
พวกเขาเริ่มโชว์ตอนเวลา 18.41 น.ซึ่งเป็นช่วงใกล้เวลาไพร์มไทม์ในสหราชอาณาจักร (UK) และเป็นช่วงที่สถานีโทรทัศน์ในอังกฤษเตรียมถ่ายทอดสดไปทั่วโลก.....เหมือนสวรรค์เป็นใจให้กับวง Queen เพื่อประกาศศักดาให้โลกรับรู้ว่า พวกเขาเป็นวงร็อคที่แสดงสดได้ดีที่สุด เว้นแต่พวกเขาจะทำพลาดเอง..
ก่อนที่วง Queen จะขึ้นเล่น ก็มีการแสดงคั่นกลาง เป็นการแสดงของดาวตลก 2 คนชื่อ Griff Rhys Jones กับ Mel Smith ซึ่งแต่งตัวเป็นนายตำรวจ พูดเป็นเชิงว่า มีเสียงร้องเรียนจากหญิงสาวในเบลเยี่ยมว่า “เสียงที่นี่หนวกหูมาก”เล่นเอาคนดูเฮลั่น ต่อจากนั้นพวกเขาก็ประกาศก้องสนามเวมบลีย์ว่า “the next combo” ได้แก่ “Her Majesty… Queen”
พลันเสียงประกาศจบลง เฟร็ดดี้ก็ออกมาปรากฎตัวบนเวที ด้วยภาพลักษณ์ที่เราติดตาจากภาพยนต์เรื่อง Bohemian Rhapsody เขานั่งลงที่เปียโน แล้วก็เริ่มบรรเลงเพลง 'Bohemian Rhapsody’ ต่อด้วยเพลง Radio Ga Ga ซึ่งหลังจากเพลงจบลง เฟร็ดดี้ก็ได้เชิญชวนให้แฟนเพลงร้องตามตัวโน๊ตที่เขาร้องว่า “ay-oh” ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจคนดูทั่วโลก เสียงที่เขาร้องออกมา ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นตัวโน๊ตที่ได้ยินกันไปทั่วโลก “the note heard around the world”
และต่อด้วยเพลง ‘Hammer To Fall’ หลังจากนั้นเฟรดดี้ก็พูดแนะนำเพลงต่อไปว่า
“This next song is only dedicated to beautiful people here tonight – which means all of you. Thank you for coming along, you are making this a great occasion,” - Freddie Mercury
ซึ่งแน่นอนว่า มอบให้คนดูที่มาร่วมงานนี้ทุกๆคน แล้วเพลง ‘Crazy Little Thing Called Love’ ก็เริ่มขึ้น....
ตามติดด้วยเพลง We Will Rock You และปิดท้ายด้วยเพลง We Are The Champions ซึ่งทำให้เฟรดดี้ดูโดดเด่นมาก ไบรอัน เมย์กล่าวความในใจว่า เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันบอกไม่ถูก มันเป็นวันที่พิเศษสุดของพวกเราจริงๆ
“I’d never seen anything like that in my life and it wasn’t calculated, either… it was the greatest day of our lives,” - Brian May
หลังจบการแสดงของวง Queen ด้านหลังเวทีที่ศิลปินอีกหลายคนรอต่อคิวแสดง มีความรู้สึกว่าการแสดงต่อจากนี้ คงจะไม่ง่ายแล้ว แม้แต่ซุปเปอร์สตาร์อย่าง Elton John ก็พูดออกมาว่า วง Queen แทบจะขโมยซีนทั้งหมดของงาน Live Aid ไปแล้ว ประหนึ่งว่า Queen ครองโลกบนเวที Live Aid
“Everybody realised that Queen was stealing the show,” - Elton John
ผู้จัดงาน Live Aid ยังยอมรับเลยว่า วง Queen เป็นวงที่เล่นดีที่สุดในงานนี้ พวกเขาเล่นได้เยี่ยม เสียงออกมาสุดยอด พวกเขาใช้เวลาทุกวินาทีบนเวทีคุ้มมาก พวกเขาทำการบ้านมาดี เพลงต่อเพลงที่พวกเขาเล่น ยิ่งเล่นยิ่งดี มันเป็นเวทีแสดงที่สมบูรณ์แบบของเฟร็ดดี้ โลกทั้งโลกแทบจะเป็นของเขาเลยทีเดียว
2 เดือนต่อมา วง Queen เข้าห้องอัดเพื่อทำอัลบั้มชุด A Kind Of Magic ซึ่งจากความสำเร็จของการแสดงสดที่สนามเวมบลีย์ในครั้งนั้น ทำให้อัลบั้มชุดนี้ขายดีทะลุ 6 ล้านแผ่น และยอดจองบัตรทัวร์คอนเสิร์ตโปรโมทอัลบั้มชุดนี้ก็ถูกจองหมดทุกรอบ.....สุดยอดของสุดยอด...วันนี้ในอดีตครับ
วี welove / 13 July 2019 (edit 2023)