วี welove

10 เม.ย. 20202 นาที

ครบ 50 ปี.....ที่โลกนี้ไม่มี "The Beatles"(ตอนที่ 1)

อัพเดตเมื่อ: 9 เม.ย. 2023

ทำไมThe Beatles ถึงยุบวง: เรื่องจริงสำหรับเบื้องหลังการยุบวงของวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา "Why The Beatles split: The true story behind the break-up of the biggest band ever"

การแถลงข่าวของ Paul McCartneyในปี 1970 เป็นการปิดตำนานของ The Beatles แต่ความจริงแล้วมีข่าวออกมาก่อนหน้านั้นนานเป็นปี และช่วงเวลานั้น Yoko Ono ได้ตอบแทน John Lennonในที่ประชุมวงโดยข้อความปรากฏอยู่ที่ผนัง

Mark Beaumont จะชี้แจงรายละเอียด ตัวต้นเหตุ การชิงไหวพริบ และเบื้องหลังความตึงเครียดอันนำไปสู่รอยร้าวที่ยากจะประสานได้....

สัญญานสุดท้ายจากพอล

หลังจาก 8 ปีที่ The Beatles เข้ามาเขย่าโลก เปลี่ยนคำนิยามใหม่ของคำว่า "ดนตรี" สร้างกระแสความนิยมวัฒนธรรมขึ้นมาใหม่บนโลกนี้ แต่เพียงแค่คำเดียวสั้นๆ ก็สามารถทำให้ The Beatles วงที่ยิ่งใหญ่ต้องดับสูญไป

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 1970 เมื่อ Paul McCartney ออกแถลงข่าวการเปิดอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง 'McCartney'เป็นครั้งแรก

ซึ่งในเวลานั้นพอลยังเป็น The Beatles อยู่ นักข่าวก็ปล่อยคำถามหนึ่งหลุดออกมาว่า "คุณมีแผนในการทำซิงเกิ้ลหรืออัลบั้มกับวง The Beatles อีกหรือไม่?"


 
คำตอบสั้นๆที่หลุดออกมาจากพอล "NO" ทำให้บรรยากาศตอนนั้นเริ่มตึงเครียด และเมื่อมีอีกหนึ่งคำถาม ถามพอลว่า " อยากทราบว่าผลงานในนาม 'Lennon-McCartney' จะมีออกมาอีกหรือไม่" พอลตอบสั้นๆเป็นครั้งที่ 2 ว่า "NO" ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้นมาทันที....เหมือนเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงตำนานวงที่ยิ่งใหญ่ของโลกอย่าง The Beatles ไปตลอดกาล...

ข่าวพาดหัว

รุ่งเช้าของวันที่10 เมษายน ในปี 1970 (หรือวันนี้เมื่อ 50 ปีที่แล้ว) ข่าวการยุบวงของ The Beatles กลายเป็นข่าวหน้า 1 พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในอังกฤษ ออกไปในทิศทางเดียวกันคือ "Paul Quits The Beatles" (พอลลาออกจากวง The Beatles)

และไม่นานข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลก ผู้สื่อข่าวรวมถึงแฟนเพลงรวมตัวกันที่หน้าสำนักงาน Apple Corps เผื่อจะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ สำนักข่าว CBS จากอเมริกาถึงกับพูดออกรายการว่า "เหตุการณ์ในวันนี้มีความสำคัญยิ่ง และอาจจะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นวันล่มสลายของจักรวรรดิอังกฤษ นั่นคือวันที่ The Beatles ยุบวง"

ทุกคนต่างอยู่ในภาวะตกตะลึงและคร่ำครวญกับข่าวที่ออกมา ตั้งแต่แฟนเพลงที่เพิ่งจะอายุ 20 เคยอยู่ในช่วงกระแส 'Beatlemania' พวกนักฝัน นักต่อต้าน นักกิจกรรมทางสังคมทั้งหลายที่ชื่นชมผลงานกลางยุค 60s ของ The Beatles จนถึงพวกสายร็อค สายไซเคเดลิคที่สะสมแผ่น The White Album, Abbey Road

เกือบจะ 10 ปีที่ The Beatles และเหล่าสาวก รวมถึงบทเพลงของพวกเขาแทบจะครองโลก พวกเขาไม่ใช่เป็นแค่วงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เป็นวงที่พัฒนาไปข้างหน้า และเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเยาวชนไปอย่างรวดเร็ว

ปฏิกิริยาของสามหนุ่ม "Beatles"

ข่าวที่ออกมาทำให้ Beatles คนอื่นๆตกใจเช่นกัน Paul ออกมาแก้ตัวว่า เขาไม่ได้ตั้งใจใช้โอกาสนี้ (เปิดตัวอัลบั้มใหม่ "McCartney") ประกาศข่าวยุบวง ซึ่งผลลัพธ์กลายเป็นการแตกหักอย่างช่วยไม่ได้

George Harrison ไม่ยอมปริปากพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ Ringo Starr ยอมรับว่ามันเป็นข่าว ส่วน John Lennon พูดเหน็บแนมว่า "รู้สึกดีที่รู้ว่าPaulยังมีชีวิตอยู่ ไปบอกเลยว่าผมพูดเล่น เขาไม่ได้ลาออกหรอก แต่ผมไล่เขาออกเอง"

"ภายใต้ความเครียดจากความสำเร็จมากมายระดับโลก และความคาดหวังทางวัฒนธรรมอันน่าทึ่งของพวกเขา ทำให้ The Beatles กลายเป็นความยุ่งเหยิงอันน่ากลัวของการมีอีโก้ ความไม่ปลอดภัย ความขุ่นมัว การเสพติดอย่างหนัก ความสับสนทางจิตวิญญาน การสื่อสารที่ผิดพลาด ความเกลียดชังแบบคลุมเคลือ ปัญหาที่เลวร้ายเกิดขึ้นจากการขาดการควบคุม การจัดการ การก้าวก่าย เป็นภัยพิบัติต่อธุรกิจ" - Yoko Ono

ข้อความเหล่านี้เขียนไว้บนผนังย้อนกลับไปในปี 1968 สำหรับ John แล้วรู้สึกเจ็บแค้นใจ อยากทำลายวงทิ้ง ซึ่งเขาเคยบอกเพื่อนในวงถึงความตั้งใจที่จะออกจากวงตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนปี 1969 John เล่าว่า "ผมอยากยุบวง ผมน่าจะทำไปตั้งนานแล้ว ผมตั้งวงขึ้นมาได้ แล้วจะยากอะไรถ้าผมจะยุบวง"

ต้นเหตุลึกๆของการยุบวง เริ่มจากช่วงหมดยุคของ"Beatlemania" จะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านต่อกันเลยครับ

รอยร้าวแรก

ดูเหมือน Paul จะทำให้เป็นข่าวใหญ่โต ดูจริงจังสำหรับข่าวลาออกจากวง แต่แท้จริงแล้ว Beatles ทุกคนเคยลาออกจากวงกันทั้งนั้น คนแรกคือ George Harrison จอร์จเคยขู่ที่จะออกจากวง ย้อนกลับไปในปี 1966 เพียง 4 ปีหลังจากความสำเร็จของซิงเกิ้ลแรก 'Love Me Do' George เคยยืนยันหนักแน่นว่า เขาจะลาออกจากวง ถ้าวงยังออกทัวร์คอนเสิร์ตแบบนี้อยู่ เพราะคอนเสิร์ตในช่วงนั้นแทบจะเละเทะ พวกเราไม่ได้ยินเสียงของตัวเองเลย มีแต่เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของแฟนเพลง ซึ่งPaulรับปากให้ตามนั้น

เรื่องนี้ทำให้ความคิดของ John ที่ไม่คาดหวังจะมีวงThe Beatles อีกต่อไปนั้นเริ่มก่อตัวขึ้นมา "That’s when I really started considering life without The Beatles" John ว่าไว้อย่างนั้น

เขาเริ่มโปรยเมล็ดพันธ์แห่งความคิดนี้ตั้งแต่วันนั้น เขาจึงลาออกก่อนที่จะมีใครโยนเขาออก ในขณะที่ในมือของ Beatles คนอื่นๆก็มีเมล็ดพันธ์แห่งความไม่พอใจปลูกไว้เช่นกัน

เมื่ออำนาจของวงเปลี่ยนมือมาที่ Paul

อัลบั้ม 'Sgt Pepper’s Lonely Hearts Club Band' ในปี 1967 เป็นอัลบั้มสุดท้ายที่พวกเขาทำงานด้วยกันอย่างจริงใจ เป็นปึกแผ่นและมีความสุข เป็นงานเน้นแนวไซเคเดลิคและกลิ่นอายยุค 60's เพียงแต่งานจะเทหนักไปทาง Paul เมื่ออัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จดีเยี่ยม จึงทำให้โครงสร้างอำนาจของวงเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้

ตั้งแต่นั้นมา Paul เริ่มทำตัวเป็นคนกำหนดงานให้กับวง เช่น หางานออกรายการพิเศษทางทีวีช่วงคริสต์มาส ทำงานอัลบั้ม Magical Mystery Tour จนเพื่อนๆในวงเริ่มไม่พอใจกับการบังคับควบคุมของ Paul รวมไปถึงท่าทีและการวางตัวของเขาด้วย

คนที่รู้สึกเคืองมากที่สุดน่าจะเป็น George Harrison เขารู้สึกไร้ค่าเมื่อเทียบกับ Paul และ John จะเห็นว่าผลงานในอัลบั้ม Revolver ที่ออกมาในปี 1966 แม้จะมีงานของเขาถึง 3 เพลง“Taxman”, “Love You To” และ “I Want to Tell You" แต่การมีส่วนร่วมของเขาเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม

George เล่าว่า “We’d have to record maybe eight of theirs before they’d listen to mine” (พวกเราต้องบันทึกเพลงของ Lennon-McCartney ก่อนสัก 8 เพลง แล้วถึงจะมาฟังเพลงของผม)

เรื่องราวเหล่านี้เป็นแค่รอยร้าวที่เพิ่งเริ่ม และเริ่มก่อตัว พรุ่งนี้ผมจะนำเสนอตอนที่ 2 รับรองว่าเข้มข้นขึ้นไปอีก....มีทั้งหมด 3 ตอนจบครับ เพราะจุดจบของThe Beatles ซับซ้อนเกินกว่าจะจบในตอนเดียว

สนับสนุนBlog ให้คลิกปุ่ม "เพิ่มเพื่อน"ที่อยู่บนสุด (เข้าถึงBlog ผ่านเมนูในไลน์ ฟรี)welovechannel.info / 10 April 20

แปลและเรียบเรียงจาก Independent (UK's largestquality digital news brand) สนใจอ่านต้นฉบับคลิกได้ที่ภาพอัลบั้ม "McCartney"บนสุดครับ

    44