วี welove
8 ก.ค. 20231 นาที
อัพเดตเมื่อ: ม.ค. 20
ผมเคยเขียนคุยเรื่องเกี่ยวกับสารคดี "Freddie Mercury: A Life in Ten Pictures" เป็นเรื่องราวชีวิตของ Freddie Mercury ผ่านภาพถ่าย 10 รูปที่ออกอากาศโดย BBC
วันนั้นพูดถึงแฟนคนแรกของเฟร็ดดี้ และในสัปดาห์นี้ในอังกฤษปี 1979 (8-14 July) เพลง "Love of My Life" ของ Queen เป็นเพลงใหม่ใน Official Singles Chart ที่อันดับ 63 เลยอยากมาพูดถึง Mary Austin แฟนอีกคนของเฟร็ดดี้ที่คบหากันมานานจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต เพราะ Mary Austin คือ "Love of My Life" ของเฟร็ดดี้นั่นเอง
เพลง "Love of My Life" ของ Queen อยู่ในอัลบั้ม "A Night at the Opera" ที่ออกมาในปี 1975 แต่เวอร์ชั่นอะคูสติกที่อยู่ในอัลบั้ม "Live Killers" ของพวกเขาในปี 1979 ซึ่งเป็นการแสดงสดของพวกเขาระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต "Jazz Tour" ในยุโรปกลายเป็นเพลงฮิตอันดับ 1ในบราซิลและอาร์เจนติน่า เมื่อ Queen ไปแสดงสดที่นั่นในปี 1981
ซิงเกิ้ลอะคูสติกเพลงนี้นำมาทำให้สั้นลง โดยการตัดเสียงพูดตอนต้นและตอนท้ายออก แล้วปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลขายในอังกฤษ แต่ไปไม่รอด เพลงเข้าสัปดาห์แรกสัปดาห์นี้ในปี 1979 ที่อันดับ 63 แล้วตกไปอยู่อันดับ 70 ก่อนจะหลุดออกจากตารางอันดับ ใช้เวลาอยู่ในตารางอันดับที่อังกฤษเพียง 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เพลงนี้ถือเป็นเพลงที่แฟนเพลงของ Queen เก็บไว้อยู่ในใจ เป็นเพลงโปรดของใครต่อใครหลายคนหลังจากที่เฟร็ดดี้ได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ
แม้ว่า Mary Austin จะเป็นแค่เพื่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอคือคนรักคนเดียวของ Freddie Mercury ที่ผูกพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง เราไปตามอ่านเรื่องราวย่อๆของทั้งคู่กันอีกครั้ง
ตอนที่ทั้งคู่รู้จักกัน แมรี่อายุเพียง 19 ปีทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่ในร้านสโตร์ "Biba" ซึ่งขายเสื้อผ้าแฟชั่นในกรุงลอนดอน เรื่องราวเกิดจาก Brian May ไปเจอเธอและจีบเธอแต่สุดท้ายกลายเป็นเธอไปออกเดทกับเฟร็ดดี้ และตั้งแต่นั้นมาเธอกับเฟร็ดดี้ก็ตัวติดกันตลอด..
ทั้งคู่คบหากันยาวนาน 6 ปีและอยู่ด้วยกันที่แฟลตตลาดเคนซิงตันในกรุงลอนดอน แต่เมื่อเฟร็ดดี้ได้บอกว่าตัวเองเป็นเกย์ ความสัมพันธ์แบบคู่รักของทั้งคู่จึงจบลง และแปรเปลี่ยนเป็นเพื่อนสนิท ดูแลกันอย่างดีจวบจนวาระสุดท้ายของเฟร็ดดี้ในวัย 45 ปีและจากไปด้วยโรคเอดส์
เฟรดดี้เคยพูดถึงแมรี่ว่า "I might have all the problems in the world but I have Mary and that gets me through. I still see her every day and I am as fond of her now as I have ever been. I'll love her until I draw my last breath."
"แม้ผมจะมีปัญหามากมายบนโลกนี้ แต่ผมมีแมรี่และนั่นทำให้ผมผ่านไปได้ ผมยังได้พบเธอทุกวัน ตอนนี้ผมหลงรักเธอเหมือนที่เคยเป็นมา ผมจะรักเธอจวบจนลมหายใจสุดท้าย" - Freddie Mercury
หลังจากที่เฟร็ดดี้จากไปในปี 1991 แมรี่ได้รับมรดกมูลค่า 25 ล้านปอนด์จากเขา เป็นแมนชั่นรูปแบบ "Georgian mansion" ในเมืองเคนซิงตัน และยังได้ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของเฟร็ดดี้จากรายได้ในอนาคตของ Queen ส่วนคนอื่นๆที่เป็นเพื่อนของเฟร็ดดี้ รวมถึงคนรักหนุ่ม "Jim Hutton" ต่างก็ได้มรดกเป็นเงิน 500,000 ปอนด์
ตอนแรกแมรี่พยายามโน้มน้าวให้เฟร็ดดี้เปลี่ยนใจ แนะนำให้เขามอบแมนชั่นหลังงามนี้ให้เป็นของสาธารณะ จะได้กลายเป็นสถานที่ๆแฟนเพลงจะได้มาเยี่ยมเยือนเพื่อรำลึกถึงเขา แต่เฟร็ดดี้ยืนกรานตามเดิม เพราะเขาบอกแมรี่ว่า ถ้าเขาไม่ได้เป็นเกย์ เธอคงได้เป็นภรรยาของเขาอย่างแน่นอน และทรัพย์สินทั้งหมดนี้ก็สมควรเป็นของแมรี่อย่างไม่ต้องสงสัย
เธอทำตามเจตนารมณ์ของเฟร็ดดี้ และอยู่ดูแลเขา อยู่เคียงข้างเขาจนลมหายใจสุดท้าย รวมถึงการจัดการกับอัฐิของเฟรดดี้เช่นกัน ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอนำไปโปรยหรือไปเก็บในที่แห่งไหน บ้างก็บอกว่าเก็บไว้ในสุสาน "Kensal Green" หรือใต้ต้นเชอรี่ในสวนหน้าบ้าน เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องพวกนี้ให้ใครรู้เลย..
นับถึงปีนี้เฟร็ดดี้ได้จากแมรี่และแฟนเพลงครบ 32 ปี เธอพูดถึงเฟร็ดดี้ว่า
"I lost my family, really, when Freddie died. He was everything to me, apart from my sons. He was like no one I had met before."
"ฉันสูญเสียครอบครัวของฉันจริงๆเมื่อเฟร็ดดี้จากไป ถ้าไม่นับลูกชายทั้ง 2 คนของฉัน เขาคือทุกอย่างของฉันเลยทีเดียว เขาไม่เหมือนใครที่ฉันเคยพบมาก่อน"
ปัจจุบันแมรี่อายุ 72 ปี ใช้ชีวิตสงบเงียบอยู่ในแมนชั่นหรูของเฟร็ดดี้ เธอแต่งงานมา 2 ครั้งแต่ก็จบด้วยการหย่า และมีลูกชายถึง 2 คนชื่อ Jamie และ Richard
ขอบคุณเนื้อหาจากนิตยสาร Hello
วี welove / 8 July 2023
ติดตามทางเพจ Facebook
ติดตามทาง Line
ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info