วี welove

21 พ.ค. 20232 นาที

“I Don’t Want To Talk About It” กับเบื้องหลังเพลงที่แสนเศร้า

อัพเดตเมื่อ: ม.ค. 20

“I Don’t Want To Talk About It” - Rod Stewart (1977)

พูดถึงเพลงนี้หลายคนคงจำภาพของ Rod Stewart ร้องคู่กับ Amy Belle สาวน้อยน่ารักหุ่นบางบนเวทีคอนเสิร์ตที่ Royal Albert Hall ในปี 2004 ได้อย่างแน่นอน แต่เวอร์ชั่นซิงเกิ้ลอันดับ 1 ของ Rod Stewart ในอังกฤษออกมาตั้งแต่ปี 1977 และขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ (UK) วันนี้ (21 พฤษภาคม) ในปี 1977

ที่น่าสนใจคือเพลง“I Don’t Want To Talk About It” เป็นเพลงจากอัลบั้ม Atlantic Crossing ซึ่งออกมาในปี 1975 แต่ตอนนั้นไม่ได้ถูกตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ล จนกระทั่งในปี 1976 Rod Stewart ออกอัลบั้ม “Night On The Town” พร้อมกับปล่อยซิงเกิ้ลจากอัลบั้มชุดใหม่นี้ถึง 3 เพลง..

หนึ่งในนั้นได้ลากเพลง “I Don’t Want To Talk About It” จากอัลบั้มชุดก่อนหน้านั้น สู่กระแสความนิยมได้สำเร็จ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ติดตามอ่านเรื่องราวเบื้องหลังของเพลงนี้กัน พร้อมกับฟังเพลงต้นฉบับซึ่งแต่งโดยคนป่วยที่มีชีวิตที่น่าเศร้า หนึ่งในสมาชิกวง Crazy Horse ของ Neil Young แล้วคุณจะรักเพลงนี้มากขึ้นไปอีก..

ต้นฉบับจาก Crazy Horse

เพลง“I Don’t Want To Talk About It”ของ Rod Stewart ที่ชื่อเพลงฟังแล้วแสนจะธรรมดา ใครจะไปนึกว่าเป็นเพลงของวง Crazy Horse วงที่ตามก้น Neil Young มาตั้งแต่ปลายยุค 60s..

เพลง“I Don’t Want To Talk About It”อยู่ในอัลบั้มเปิดตัวชื่อเดียวกับชื่อวง "Crazy Horse" ออกมาในปี 1971 แต่อัลบั้มเปิดตัวได้ไม่ค่อยสวย อยู่แค่อันดับ 84 เพลงนี้ก็เลยวังเวงตามไปด้วย ส่วน Danny Whitten ผู้แต่งเพลงนี้ก็เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในปีถัดมา (1972)

เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเขาถูกไล่ออกจากวงระหว่างซ้อมเพลงเนื่องจากอาการติดยารุนแรง Neil Young ให้เงิน $50 พร้อมตั๋วเครื่องบินแก่แดนนี่เพื่อบินกลับไปแอลเอ..และเขาก็เสียชีวิตที่นั่นในวันเดียวกัน สร้างความเสียใจให้กับ Neil Young เป็นอย่างมาก และเขารู้สึกผิดกับเรื่องนี้มาโดยตลอด

เพลงเศร้า แต่คนเขียนเพลงนี้เศร้ายิ่งกว่า

Danny Whitten ริธึ่มกีต้าร์และคนร้องเป็นคนเขียนเพลงนี้ เพลงพูดถึงหนุ่มอกหักที่ไม่อยากพูดถึงความเจ็บปวดของตัวเอง ขอเพียงแค่แฟนสาวรับฟังเสียงหัวใจของเขาก็เป็นพอ ฟังแล้วก็รู้สึกเศร้าและเห็นใจชายหนุ่ม

พอทราบว่าผู้แต่งเพลงนี้โดนไล่ออกและเสียชีวิต ยิ่งฟังแล้วยิ่งเศร้าจับใจ จนทำให้รู้สึกชอบเวอร์ชั่นนี้ขึ้นมาทันที และกลายเป็นว่าชอบมากกว่าเวอร์ชั่นของ Rod Stewart ที่ฟังจนร้องได้ขึ้นใจ

ช่วงนั้น Danny ติดเฮโรอีนอย่างหนัก เขาจึงเขียนเพลงนี้และร้องออกมาได้จับใจมาก จากนั้นอีก1ปี ในเดือนพฤศจิกายนปี 1972 Danny ก็มาเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดพร้อมๆกับดื่มเหล้าจัดตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

Danny เขียนเพลงนี้ขณะป่วย

Nils Lofgren หนึ่งในสมาชิกวง Crazy Horse เล่าให้ฟังว่า

“ Danny เป็นคนดี เป็นคนจิตใจอ่อนไหว เขาเป็นคนพาผมเข้ามาในวง ผมชอบเพลงที่เขาแต่ง เพลง “I Don’t Want To Talk About It” เป็นหนึ่งในเพลงบัลลาดที่ดีเยี่ยมเท่าที่ผมเคยฟัง ผมยังจำเนื้อเพลง 2 บรรทัดแรกที่เขาแต่งได้ ตอนนั้น Danny ป่วยแล้ว แต่เขายังร้องและเล่นไหวอยู่ เพียงแต่ขาดสมาธิ
พวกเราบอกเขาว่าจะทำเพลงนี้กัน มันยอดเยี่ยมมาก Danny จึงรับปากว่าจะนำไปเขียนท่อนที่สองต่อ หลังจากนั้นก็หายไปเป็นเดือน เมื่อกลับมาสตูดิโออีกครั้ง Danny เอ่ยปากให้ใครช่วยเขียนต่อ ผมจึงอาสาช่วยเขียน เราเล่นกีต้าร์โปร่งและนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ส่วน Ry Cooder รับหน้าที่เล่นกีต้าร์สไลด์ เพลงออกมาฟังดูดีเลย ”

John Mendelsohn นักวิจารณ์เพลงจากนิตยสารชื่อดัง “Rolling Stone” ยังชมเพลงนี้ว่าเป็นเพลงบัลลาดที่ฟังแล้วน่ารักอย่างเหลือเชื่อ

Neil Young กับ Danny Whitten แห่งวง Crazy Horse

ไม่มีโอกาสได้ร่วมเล่นเพลงนี้ตามที่ต่างๆ

เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เพราะ Danny Whitten ไม่มีโอกาสได้ร่วมเล่นเพลงนี้กับเพื่อนๆในวง Crazy Horse ตามที่ต่างๆ เนื่องจากหมดสภาพจากการติดยา สุดท้ายจึงต้องออกจากวง โดยได้ George Whitsell มาแทนในอัลบั้มชุดถัดไป “Loose” (1972)

ตอนวง Crazy Horse กลับมาร่วมงานกับ Neil Young ดูเหมือน Danny พร้อมกลับมาเล่นดนตรีกับเพื่อนๆได้อีกครั้ง แต่เนื่องจากแดนนี่ขาดยาไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องออกจากวงอีกครั้ง..และเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้อยู่กับเพื่อนๆ ก่อนจะจากลาโลกนี้ไปในคืนนั้น..

ก่อนจะมาเป็นซิงเกิ้ลฮิต

เพลง “I Don’t Want To Talk About It” อยู่ในอัลบั้ม “Atlantic Crossing” ซึ่งออกมาในปี1975 เป็นช่วงที่ Rod Stewart ย้ายฐานมาอยู่อเมริกาตามชื่อปกอัลบั้ม และมีซิงเกิ้ลออกมาจากอัลบั้มชุดนี้ 2 เพลงคือ “Sailing” กับเพลง “This Old Heart Of Mine” เพลงติดแค่อันดับ 58 กับ 83 ในอเมริกา (ในอังกฤษขึ้นถึงอันดับ 1 และ 4 ตามลำดับ)

ส่วนอัลบั้มไปได้ดี ขึ้นถึงอันดับ 9 แต่เพลง“I Don’t Want To Talk About It” ไม่มีใครพูดถึงเพราะไม่ได้ถูกตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลในตอนนั้น

จนกระทั่งกลางปี1976 ซิงเกิ้ล “Tonight’s The Night” จากอัลบั้มใหม่ “Night On The Town” อัลบั้มชุดที่ 7 ของ Rod Stewart ถูกปล่อยออกมา นั่นหมายความว่าคงไม่มีซิงเกิ้ลจากอัลบั้ม “Atlantic Crossing” ออกมาอีกแล้วนั่นเอง เพลง“I Don't Want To Talk About It” จึงน่าจะจบอยู่แค่นั้น..แต่ก็มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจนได้ นึกว่าจะจบ แต่ไม่จบ..

เมื่อเพลงนี้กลับมาฟื้นคืนชีพ

ในคืนวันก่อนคริสต์มาสปี 1976 Rod Stewart แสดงคอนเสิร์ตในกรุงลอนดอน ระหว่างที่เขาร้องเพลง “I Don’t Want To Talk About It” ทันทีทันใดนั้นแฟนเพลงก็พร้อมใจกันร้องตาม สร้างความแปลกใจให้เขาเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าแฟนเพลงจะร้องตามได้ เนื่องจากไม่ใช่เพลงฮิต และช่วงท้ายเพลงก่อนจบเพลงเขาหยุดร้อง แต่แฟนเพลงยังคงร้องต่อ เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก (ชมวิดีโอเพลงนี้ เริ่มชั่วโมงที่ 1.04 และช่วงที่แฟนเพลงร้องเอง ชั่วโมงที่ 1.08.38)

ภาพอันน่าประทับใจในวันนั้นทำให้ทาง Warner Bros. ตัดสินใจตัดเพลง “I Don’t Want To Talk About It” ออกมาเป็นซิงเกิ้ล พร้อมกับเพล“The First Cut Is The Deepest” ซิงเกิ้ลจากอัลบั้มล่าสุด (Night On The Town)

โดยทำออกมาเป็นแผ่นซิงเกิ้ลแบบ "double - A side" หมายความว่า ซิงเกิ้ลแผ่นนี้จะมีหน้า A อยู่ทั้ง 2 หน้า(ไม่มีหน้า B) โดยมีเพลง“The First Cut Is The Deepest” กับเพลง“I Don’t Want To Talk About It” และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเพลง“I Don’t Want To Talk About It” สามารถขึ้นถึงอันดับ 1 ในอังกฤษได้

อย่างไรก็ตามก็มีดราม่าเกิดขึ้นจนได้ ว่ากันว่าเป็นการทุ่มเงินซื้อซิงเกิ้ลเพลงนี้จำนวนมากจากคนวงใน..เพื่อไม่ให้ราชวงศ์อังกฤษต้องเสียหน้าในช่วงวันเฉลิมฉลองการครองราชย์ของควีนอลิซาเบธที่ 2 ครบ 25 ปี เพราะเพลง “God Save The Queen”ของวง The Sex Pistols ที่มีเนื้อหาเสียดสีราชวงศ์อังกฤษกำลังมาแรง และมีโอกาสขึ้นถึงอันดับ 1 ซึ่งเหล่าผู้สนับสนุนราชวงศ์ยอมไม่ได้

เวอร์ชั่นของ "Everything But The Girl"

ในปี1988 วงดูโอ "Everything But The Girl" คืออีกวงที่ได้อนิสงค์จากเพลงนี้ พวกเขามีซิงเกิ้ล Top 10 เพลงแรกจากเพลงนี้ที่อันดับ 3 ในอังกฤษ ทั้งที่ก่อนหน้านี้อัลบั้มของพวกเขาทั้ง 3 ชุดไม่มีใครพูดถึงมากนัก และถูกวิจารณ์ว่าไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน เพราะ 3 อัลบั้มที่ออกมาของพวกเขาเปลี่ยนแนวไม่ซ้ำกัน

Ben Watt หนึ่งในสมาชิกวงรู้สึกว่าเพลงที่พวกเขาแต่งไม่ค่อยได้รับความนิยม จึงตัดสินใจเลือกเพลงของศิลปินอื่นมาลองร้องดูบ้าง

“ตอนเลือกเพลงนี้มาร้อง ยังคิดอยู่เลยว่า มันคงไปไม่รอดเหมือนกัน แต่พอเพลงนี้ขึ้นถึงอันดับ 3 มันทำให้เราผิดหวังพอๆกับตอนที่เพลงของเราคาดว่าน่าจะดัง แต่กลับไม่ดัง”

เก็บตกน่ารักๆกับ Amy Belle

คงเป็นภาพติดตาไปแล้วสำหรับเพลงร้องคู่เพลงนี้ระหว่าง Rod Stewart กับสาวน่ารักหุ่นบาง Amy Belle มีหลายคนถามมาว่า “เธอคือใคร” คำตอบอยู่ในคอนเสิร์ต One Night Only! Live at Royal Albert Hall ที่ทั้งคู่ร้องเพลงนี้ด้วยกัน

Rod Stewart ได้แนะนำเธอกับผู้ชมว่า เขาพบ Amy Belle ร้องเพลงอยู่ริมถนนตรงจุดรับส่งผู้โดยสารทางรถไฟในเมืองกลาสโกว์ เขาเห็นความสามารถ จึงอยากให้โอกาสเธอมายืนตรงจุดนี้..

วี welove / 21 May 2020 (updated 2023)

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

    67