วี welove
6 พ.ค. 20222 นาที
อัพเดตเมื่อ: ก.พ. 22
ในปี 2000 Glenn Frey เคยกล่าวไว้ว่า "แม้ว่าวง The Eagles จะแยกทางกันตั้งแต่ปี 1980 แต่เพลงของพวกเราก็ยังอยู่ และยังรู้สึกว่าไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปไหน ทุกคนก็ยังมองผมเป็นหนึ่งในสมาชิกวง The Eagles"
เพลงของ The Eagles ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดยุค 70s และยังได้รับความนิยมต่อเนื่องผ่านทางวิทยุ ยอดขายเทป ซีดี รวมถึงอัลบั้มที่ขายได้ทั่วโลกถึง 150 ล้านชุด เป็นเพราะเพลงของThe Eagles ฟังสบาย งานเพลงพิถีพิถันในสไตล์คันทรีร็อค
Don Henley มือกลองและเพื่อนคู่หูของ Glenn Frey พูดถึง Glenn Frey ว่า
“ด้วยความรักในเสียงเพลงและธุรกิจ Glenn Frey จึงเป็นผู้นำพาวงไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจเพลงอย่างแท้จริง อีกอย่างเขาชอบกีฬามากจึงมีทักษะการเป็นโค้ช ทักษะนี้ทำให้เขารู้จักดึงความสามารถและความถนัดของแต่ละคนออกมาใช้ได้ถูกที่ ถูกเวลา"
บทพิสูจน์ที่ออกมาให้เห็นชัดเจน ก็คือการทำอัลบั้ม Hotel California อัลบั้มชุดที่ 5 ของพวกเขาที่ออกมาในปี 1976 ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ 17 ล้านแผ่นเฉพาะในอเมริกา และทั่วโลกอีก 32 ล้านชุด
Glenn Frey มีความตั้งใจอย่างมากในการสร้างผลงานสุดยอดชุดนี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์ในปี 1992 ว่า
"อัลบั้ม Hotel California เป็นอัลบั้มที่สุดยอด มันมาพร้อมกับการเรียนรู้ของพวกเราในการทำอัลบั้ม"
หรืออีกนัยหนึ่งว่าวงได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว และนั่นทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้ยากขึ้น ชะตากรรมของพวกเขาเหมือนถูกปิดนิ่งสนิทนับตั้งแต่นั้นมา....มันกลายเป็นแดนสนธยาสำหรับพวกเขาไปในทันที...จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปค้นหาคำตอบพร้อมกันเลย
เพลงไตเติ้ลแทร็ก Hotel California ความยาว 6.30 นาที พูดถึงการไปเยือนโรงแรมหรูแห่งหนึ่งของหนุ่มเจ้าสำราญ แล้วก้าวข้ามไปเจอด้านมืดของโรงแรม อย่างไรก็ตามมีการตีความหมายไปต่างๆนาๆ บ้างก็ว่าเกี่ยวกับการเสพเฮโรอีน บ้างก็ว่าเกี่ยวกับการบูชายันต์พวกเหล่าปีศาจ ซึ่งจากปกด้านในจะปรากฏภาพผู้นำคริสตจักรซาตาน
Glenn Frey เคยให้สัมภาษณ์ BBC เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อปี 2008 ว่า
" ทุกคนอยากรู้ความหมายที่แท้จริงของเพลงนี้ แต่ความจริงแล้ว พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน"
Glenn Frey และ Don Henley ตั้งใจแต่งเพลงนี้ให้ตีความได้หลากหลาย เหมือนเรื่องราวในแดนสนธยา (Twilight Zone) ภาพตัดจากฉากหนึ่งไปยังอีกฉาก ชายหนุ่มกำลังขับรถอยู่บนไฮเวย์ แล้วตัดมาโผล่อยู่หน้าโรงแรม เมื่อเดินเข้าไป ประตูเปิดออก และเจอคนแปลกหน้ามากมายในนั้น
Glenn Frey อธิบายว่า
"ลองสมมติว่าชายหนุ่มคนนี้เป็น The Magus ทุกครั้งที่เขาเดินผ่านประตูนั้นไป เขาจะเจอเรื่องเดิมๆซ้ำๆ ทั้งๆที่เป็นเรื่องใหม่ เราตั้งใจทำให้มันฟังดูแปลก และให้ทุกคนจินตนาการไปต่างๆนาๆ ซึ่งก็เป็นไปตามความตั้งใจของดอนกับผม"
Don Felder มือกีต้าร์ลองบันทึกเสียงกีต้าร์ 12 สายด้วยระบบ 4-track ในสตูดิโอที่บ้าน แล้วนำมาเปิดให้เพื่อนๆฟัง ตอนบันทึกเพลงนี้ครั้งแรกที่ลอสแองเจลิส ปรากฏว่าเสียงของ Don Henry สูงแหลม ( falsetto) Don Felder จึงลดคีย์ลงจาก Em มาเป็น Bm แม้จะไม่ชอบใจ แต่ก็ทำให้ Don Henley ร้องได้ง่ายขึ้นและฟังดูสมบูรณ์แบบ
จากนั้นไม่นาน การบันทึกเสียงครั้งที่ 2 ก็ตามมา แต่ตอนนี้ย้ายไปบันทึกเสียงกันที่ไมอามี่ ครั้งนี้เน้นรายละเอียดของดนตรี และเนื้อร้อง ส่วนครั้งที่ 3 พวกเขาบันทึกกันหลายเทค แล้วเลือกเอาส่วนที่คิดว่าดีที่สุดจากแต่ละเทค มาปะติดปะต่อกันจนได้เวอร์ชั่นที่เราได้ฟังกัน
โปรดิวเซอร์ Bill Szymczyk ได้ให้สัมภาษณ์นิตยสาร Sound on Sound ว่า
"เมื่อมาถึงจุดหนึ่งในอาชีพการเป็นนักดนตรี พวกเขาเริ่มตามหาความสมบูรณ์แบบมากขึ้น พวกเขาเรียกผมว่า “โค้ช” ให้ผมสามารถแก้ไขงานของพวกเขาได้ เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด เช่นเสียงกลองที่ได้ อาจจะแทนที่ด้วยเสียงกลองอีกแบบ แม้จะฟังดูดีขึ้นเล็กน้อยก็ตาม แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขาอยากให้ผมทำ"
สำหรับท่อนโซโลกีต้าร์ช่วงท้ายเพลง เป็นหน้าที่ของ Don Felder กับ Joe Walsh ใช้เวลาบันทึกในส่วนนี้ถึง 2 วัน
ตอนแรก Don Felder ต้องการเปลี่ยนท่อนโซโลใหม่เพราะจำท่อนโซโลต้นแบบ(เดโม)ไม่ได้ แต่ Don Henley กับ Glenn Freyไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าโซโลแบบเดิมดีอยู่แล้ว Don Felder จึงต้องโทรหาแม่บ้านที่มาลิบูให้ช่วยค้นหาเทปเดโม แล้วเปิดผ่านโทรศัพท์มายังห้องสตูดิโอ แล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยดี เพลงสมบูรณ์แบบตามที่ต้องการทุกประการ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่อนโซโลกีต้าร์เพลงนี้โดดเด่นแค่ไหน เพราะกลายเป็นท่อนโซโล่ที่เป็นที่จดจำมากที่สุด อีกทั้งยังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในท่อนโซโลยอดเยี่ยมตลอดกาลอีกด้วย
แม้เพลงจะมีความยาวถึง 6.30 นาที แต่ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากสถานีวิทยุทั่วโลก อีกทั้งยังมีศิลปินมากมายหลากหลายแนวเอาไปเล่นในแบบฉบับของตัวเองอาทิเช่น The Gypsy Kings, The Killers และ Frank Ocean เป็นต้น เพราะในช่วงเวลานั้นใครๆก็พูดถึงเพลง "Hotel California กับอัลบั้มยอดเยี่ยมชุดนี้.....
มีเรื่องเล่าว่า ความดังของเพลงนี้แผ่ขยายกลายเป็นประเด็นทางการทหารระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กล่าวคือ ตอนเครื่องบินสอดแนมของอเมริกาต้องลงจอดฉุกเฉินที่ประเทศจีนในปี 2001 ลูกเรือถูกบังคับให้ร้องเพลงนี้เพื่อพิสูจน์สัญชาติของตัวเอง
ในอัลบั้ม Hotel California ยังมีอีก 2 เพลงที่ Glenn Frey ยกให้เป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของพวกเขา นั่นคือเพลง New Kid In Town กับเพลง Life In The Fast Lane และผลงานเพลงจากอัลบั้มชุดนี้ทำให้พวกเขามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมจะเผชิญงานทุกงานที่ถาโถมเข้ามาในช่วงเวลานั้น ณ.เวลานั้นใครๆก็รู้ว่า The Eagles มีคู่กีต้าร์ที่สมบูรณ์และดีที่สุดเท่าที่วงจะมีได้
แต่ก็มีนักวิจารณ์บางรายวิจารณ์อัลบั้มชุดนี้ว่าเรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่ง Glenn Frey ตอบโต้ว่า :-
“พวกเราไม่สนคำวิจารณ์เหล่านั้น เพราะอัลบั้มชุดนี้ได้รางวัลแผ่นเสียงแพลตตินั่มถึง 16 แผ่น มากพอที่จะทำให้พวกนักวิจารณ์เหล่านั้นเสียศูนย์ และหมดความมั่นใจไปเอง”
วี welove / 7 May 20 (edit 2021)
ติดตามทางเพจ Facebook
ติดตามทาง Line
ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info