วี welove

24 ก.ย. 20231 นาที

เบื้องหลังเพลง"He Ain't Heavy, He's My Brother" จากเพลงที่ไม่เหมาะกับ The Hollies กลายเป็นเพลงที่ใช่

อัพเดตเมื่อ: ม.ค. 20

วันนี้ในปี 1988 วง The Hollies นำเพลง 'He Ain't Heavy He's My Brother' เพลงที่มีความหมายที่ชวนฉงน ขึ้นสู่อันดับ 1 ในอังกฤษ โดยได้อานิสงส์จากผลิตภัณฑ์เบียร์ ที่นำเพลงไปประกอบการโฆษณาจนเป็นที่ติดหูคนรุ่นใหม่ และได้รับความนิยมในที่สุด เราไปอ่านเรื่องราวที่มาและเบื้องหลังของเพลงนี้กัน..

ที่มาของชื่อเพลง He Ain't Heavy, He's My Brother

นานมาแล้วในปี 1917 บาทหลวง Edward Flanagan ได้ก่อตั้งชุมชนเล็กๆ "Boys Town" ใน Omaha , Nebraska ไว้เป็นที่พักพิงสำหรับเด็กผู้ชายที่ทุกข์ยากและไร้ที่อยู่ จนในปี1941เขาผ่านมาเจอนิตยสาร The Messenger โดยบังเอิญ ซึ่งหน้าปกเป็นภาพวาดเด็กชายกำลังอุ้มเด็กน้อยไว้บนหลัง พร้อมคำอธิบายว่า "He ain't heavy Mr., he's my brother." (เขาไม่หนักหรอกครับท่าน เขาเป็นน้องชายผมเอง) ซึ่งเป็นคำตอบที่มีคนถามเด็กคนนั้นว่า "ไม่เหนื่อยหรืออย่างไรที่ต้องทำอย่างนั้น?"

บาทหลวงเห็นแล้วก็ประทับใจยิ่ง เพราะภาพและคำอธิบายนั้นสื่อถึงจิตวิญญาณของชุมชนนี้ได้เป็นอย่างดี จึงขออนุญาตนิตยสารเล่มดังกล่าวเพื่อสร้างรูปปั้นภาพวาดนั้นพร้อมคำขวัญซึ่งเปลี่ยนคำเล็กน้อยเป็น "He ain't heavy Father, he's my brother."

นับตั้งแต่นั้นมารูปปั้นและคำขวัญนั้นจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ (logo) ของชุมชนนั้นไปโดยปริยาย และในปี 1979 สถานที่แห่งนี้ก็เปิดรับช่วยเหลือเด็กหญิงด้วย จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "Girls And Boys Town" พร้อมกับเพิ่มรูปเด็กสาวอุ้มเด็กน้อยไว้บนหลังเข้ามาอีกรูป

จริงๆแล้วที่มาของภาพที่เด็กอุ้มเด็กน้อยไว้บนหลัง มีเรื่องเล่ามีที่มาต่างกัน อย่างในสก็อตแลนด์ หนังสือ "The Parables of Jesus" ในปี 1887 พูดถึงเด็กหญิงคนหนึ่งอุ้มน้องชายตัวใหญ่ของเธอไว้บนหลังเพื่อขึ้นบันได มีคนเป็นห่วงจึงไถ่ถามว่าเหนื่อยไหม เธอตอบว่า "No, he's not heavy; he's my brother." หรือบางเนื้อหาก็พูดถึงน้องชายที่เป็นโปลิโอ ที่พี่ชายต้องเอาน้องไว้บนหลังเพื่อไปไหนด้วยกันในที่ต่างๆ ล้วนสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็น

เบื้องหลังเพลง

ต่อมาในปี 1969 Bobby Scott นักร้องมือเปียโน โปรดิวเซอร์ (คนแต่งเพลง A Taste of Honey) กับ Bob Russell นักเขียนเพลง (คนแต่งเพลง Ballerina) ได้ร่วมงานกันครั้งแรกและเป็นครั้งเดียวที่ทั้งคู่ทำงานด้วยกัน โดยรัสเซลเขียนคำร้อง แต่งเกือบจะเสร็จ แต่จากไปเสียก่อนด้วยโรคมะเร็งในวัย 56 เมื่อปี 1970

Tony Hicks มือกีต้าร์วง The Hollies เล่าว่า ตอนนั้นเขาเดินเตร่อยู่แถวถนน Bakery Street ซึ่งมีบริษัทที่เขาสามารถถามหาเพลงใหม่ได้ ตอนนั้นทางวงกำลังหาเพลงเพื่อบันทึกเสียงอยู่ แต่ดูเหมือนเพลงที่บริษัทมีอยู่ดูจะไม่เหมาะกับวง เพราะทำนองช้าและร้องแบบโซลจึงถูกเก็บไว้เพื่อรอเสนอ Joe Cocker อย่างไรก็ตาม Tony ก็ยังได้มีโอกาสฟังเดโมเพลงนี้

ตอนแรกที่ได้ฟังนั้น เสียงฟังดูอืดยืดยาดเหมือนเอาแผ่นเสียง 45rpm (แผ่นเล็ก) ไปเล่นในสปีด 33rpm (แผ่นใหญ่) แถมเสียงร้องที่ได้ฟังเหมือนคนเมาบ่นพรึมพรำ แต่ฟังแล้วรู้ได้ว่ามันมีของดีอยู่ในนั้น จึงตกลงที่จะรับนำมาทำต่อ วง The Hollies นำเพลงเพลงมาเพิ่มสปีดและใส่ดนตรีเครื่องสายออเคสตร้าเข้าไป สิ่งที่ยังคงยืนยันเป็นเพลง "He Ain't Heavy, He's My Brother" ก็คือเนื้อเพลง นอกนั้นดูจะแตกต่างออกไปพอสมควร และที่พิเศษไปกว่านั้นได้ Elton John มาเล่นเปียโนให้ด้วย ตอนนั้นยังเป็นมือปืนรับจ้างประจำห้องอัด ได้ค่าจ้างเพียง 12 ปอนด์สำหรับเพลงนี้

ความนิยม

ตอนที่ออกมาใหม่ๆในปี 1969 เพลงขึ้นถึงอันดับ 7 ในอเมริกา และอันดับ 3 ในอังกฤษ แต่มาขึ้นอันดับ 1 ได้ในวันนี้ (24 September) ปี 1988 เพราะเพลงถูกนำมาใช้ประกอบโฆษณาเบียร์ยี่ห้อ Miller ในอังกฤษ จึงเป็นที่รู้จักกันดีและได้รับความนิยมในที่สุด

วี welove/ 24 September 2023

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

    17