วี welove

20 ก.ค. 20202 นาที

พบกับเรื่องราวก่อนจะมาเป็น Elvis เมืองไทย : น้องวิช Elvich Phatihatakorn

อัพเดตเมื่อ: 30 ก.ค. 2020

สนใจติดต่อ วิช : 0896666894 / line id : elvich.p
 
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รับงานทั่วราชอาณาจักร

ประวัติย่อ
 

วิชญ ผาติหัตถกร มีชื่อเล่นจริงๆ ว่า ‘แนค’ (Knack) แต่ด้วยความที่เรียกยากจนคนมักเรียกผิด จึงตัดสินใจใช้ชื่อจริงมาเรียกสั้นๆ ว่า ‘วิช’ และใช้ฉายาว่า ‘Elvich’ เกิดวันพุธที่ 1 สิงหาคม 1984 (มีน้องชาย 1 คน อายุห่างกัน 5 ปี) เป็นคนกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

ชอบเพลงเก่าตามคุณพ่อคุณแม่

เริ่มเล่นดนตรีมาตั้งแต่ชั้น ป.5 ส่วนการร้องเพลงเริ่มมาตั้งแต่จำความได้ เพราะเป็นครอบครัวดนตรี ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะไม่ได้เล่นดนตรี แต่ก็เป็นนักฟังเพลงตัวยง โดยเฉพาะเพลงสากลเก่าๆ ในยุค 50’s-70’s ตลอดเวลาที่นั่งรถไปโรงเรียนและกลับบ้าน จะได้ฟังเพลงสากลเก่าๆ เพราะๆ ในรถอยู่เสมอ บ่อยครั้งที่คุณพ่อคุณแม่มักจะพาไปฟังดนตรีสดตามร้านอาหารในค่ำคืนพิเศษ ซึ่งล้วนเป็นเพลงสากลเก่าๆ ทั้งสิ้น
 

 

กีต้าร์ตัวแรก

ด้วยความรักในเสียงดนตรีและเครื่องดนตรี ผมจึงใฝ่ฝันที่จะฝึกเล่นเครื่องดนตรีให้มากชิ้นที่สุดเท่าที่ทำได้ ผมเติบโตมากับวงโยธวาทิตตั้งแต่ชั้นประถมปลาย ได้มีโอกาสสัมผัสเครื่องดนตรีหลายอย่าง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมตัดสินใจหันมาจับเครื่องดนตรีที่เรียกว่า ‘กีตาร์’ ตอนเรียนอยู่ชั้น ม.2 (1997) โดยขอให้คุณแม่ซื้อกีตาร์ให้ เป็นกีตาร์ Yamaha รุ่น F-310 ราคา 2,850 บาท และเริ่มฝึกเล่นด้วยตัวเองอย่างจริงจังจากตารางคอร์ดและหนังสือเพลง
 

 

เริ่มรู้จัก Elvis

ช่วงการฝึกเล่นกีตาร์ก็เป็นเวลาเดียวกันกับการค้นหาศิลปินในดวงใจ จากที่เคยฟังเพลง 60’s แบบรวมฮิต ก็เริ่มฟังแบบเจาะลึกเป็นศิลปินมากขึ้น จนไปสะดุดตากับแผ่นซีดีแผ่นหนึ่งซึ่งผมไม่รู้จักคนบนปกมาก่อนเลย ภาพชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีดำ มีปอยผมม้วนลงมาปรกหน้าเล็กน้อย และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับ ‘The King of Rock & Roll’
 

 
เมื่อได้ลองฟัง ความรู้สึกมันแปลกไปจากการฟังเพลง 60’s อื่นๆ ที่เคยฟังมา ความเร่าร้อนของเพลง การร้องที่ไม่เหมือนใคร จังหวะที่เร้าใจ ทำให้ผมรู้สึกพิเศษกับเพลงในอัลบัมนี้มาก จนมาถึงเพลงช้าเพลงหนึ่งซึ่งผมจำทำนองได้ดี สามารถฮัมตามได้ทั้งเพลง แต่ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าใครเป็นคนร้อง วันนี้ผมได้คำตอบแล้ว... Can’t Help Falling In Love นั้นเป็นเพลงของเอลวิสนั่นเอง!! นั่นเป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้ผมฝึกร้องเพลงนี้ให้เป็น และต้องร้องให้ได้โดยที่ไม่ต้องดูเนื้อ


 

 
จากเพลงนี้สู่เพลงอื่นๆ ความพยายามที่จะร้องตามเอลวิสให้ทันนั้นถือว่ายากมาก เพราะหลายเพลงมีจังหวะที่เร็ว รวมถึงการร้องที่รวบคำทำให้ต้องฝึกฝนอย่างมาก แต่ก็เป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้น โชคดีที่ในช่วงนั้นเป็นปีที่ 20 ที่เอลวิสจากพวกเราไป (ปี 1997) ทาง I.S. Song Hits จึงมีหนังสือรวมเพลงเอลวิสที่สมบูรณ์แบบที่สุดออกมา ครบทั้งชีวประวัติ รวมถึงเนื้อเพลงและคอร์ดกีตาร์ ทำให้ผมสามารถฝึกร้องและฝึกเล่นกีตาร์ไปด้วยได้ในเวลาเดียวกัน เมื่อคุณพ่อเห็นว่าผมชอบเพลงเอลวิสจริงจังขึ้น จึงได้พาไปฟังเพลงที่ร้าน ‘โสมทองคาเฟ่’ ซึ่งเป็นที่รวมตัวของโก๋หลังวังที่ชื่นชอบเอลวิสทุกคน และมีโอกาสได้พบกับ คุณสุจินต์ ปุณณะหิตานนท์ (เล็ก เพรสลีย์) ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากไปยืน ณ จุดที่เรียกว่า ‘เอลวิสเมืองไทย’


 
ความรักและศรัทธาในตัวและผลงานของราชาเพลงร็อคผู้นี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนค่อยๆ เปลี่ยนผมไปอย่างไม่รู้ตัว ตั้งแต่การหวีผม การแต่งกาย การยิ้ม แม้แต่การติดกระดุมเสื้อ จนทำให้เพื่อนที่โรงเรียนเริ่มล้อเลียนว่าผมทำตัวเป็น ‘เอลวิส’ จนกระทั่งวันหนึ่ง ในปี 1998 ตอนเรียนอยู่ชั้น ม.3 อาจารย์แนะแนวได้มอบหมายให้ทุกคนออกมาพูดหน้าชั้นในหัวข้อที่ตนสนใจ ผมจึงได้ปรึกษากับคุณพ่อว่าอยากจะนำเสนอ ‘ประวัติของเอลวิส’ แต่คุณพ่อถามกลับว่าทำไมไม่นำเสนอ ‘ความยิ่งใหญ่ของเอลวิส’ แทนล่ะ ดังนั้น ผมจึงเริ่มค้นคว้าศึกษาทั้งประวัติและผลงานต่างๆ ที่ทำให้เอลวิสกลายเป็น The King
 

 
ในวันที่ไปรายงานหน้าชั้น ผมได้นำเสนอความยิ่งใหญ่และอิทธิพลของเอลวิสต่อวงการเพลงโลก รวมถึงนำเสนอบทเพลงของเอลวิสจำนวน 5 บทเพลงผ่านกีตาร์โปร่งของผม เพื่อประกอบเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกไป ทั้งอาจารย์และเพื่อนต่างปรบมือพร้อมทั้งให้การยอมรับว่าผมคือผู้สืบทอดบทเพลงของเอลวิส แห่งโรงเรียนสาธิต ประสานมิตร
 

 

เริ่มเข้าสู่วงการElvis

ในปีเดียวกันนั้น (ปี 1998) โรงแรมเอเชียก็ได้จัดงานรำลึก 21 เอลวิสขึ้น และได้จัดประกวดร้องเพลงเอลวิสด้วย เมื่อผมและน้องชายได้ข่าวก็ขอลงสมัครด้วย นับเป็นครั้งแรกที่ได้ร้องเพลงบนเวทีจริง แม้จะไม่ได้ตำแหน่งมาครอง แต่ก็ได้ประสบการณ์มากมาย ได้พบปะกับคนรักเอลวิสหลายรุ่น และเป็นการไปร่วมงานรำลึกเอลวิสเป็นครั้งแรกด้วย มีเอลวิสเมืองไทยสลับกันขึ้นร้องอย่างอบอุ่น ทำให้เราได้รู้จักและคลุกคลีกับวงการเอลวิสเมืองไทยตั้งแต่บัดนั้น
 

 
นอกจากร้านโสมทองซึ่งเป็นร้านประจำแล้ว คุณพ่อก็ได้พาผมและน้องชายไปตระเวนฟังเพลงหลายๆ ที่ หนึ่งในนั้นคือ ร้าน Sixty Square ที่อาคาร 13 เหรียญ และได้รู้จักกับ คุณฐิตินันฐ์ ถาวรพินิจธรรม เจ้าของร้าน ซึ่งประทับใจมากที่ผมและน้องชายร้องเพลงของเอลวิสได้ จึงได้ชักชวนให้ผมกับน้องชายมาร่วมแสดงในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของร้าน ในชื่องาน ‘Baby Sixty Square Grand Opening’ ในปี 2000 ซึ่งเป็นการรวมตัวนักร้องรุ่นเยาว์ที่รักการร้องเพลงสากลเก่าๆ หลายคน ผมจึงนำวง ‘S-how’ ที่ผมกับเพื่อนๆ ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเล่นเพลงเอลวิสตั้งแต่ชั้น ม.4 (ปี 1999) มาร่วมแสดงด้วย จากผลงานในวันนั้นก็ไปเข้าตา คุณจารึก วิริยะกิจ แห่งโรงแรมเอเชียจนได้รับการทาบทามให้ไปร่วมแสดงในงานรำลึกเอลวิสที่โรงแรมเอเชีย ในปี 2001 อีกด้วย


 
จากการปรากฏตัวบนเวทีรำลึกของโรงแรมเอเชียนั้น ทางบริษัทเวิร์คพอยท์ ก็ได้ติดต่อผมให้ไปเข้าร่วมแข่งขันในรายการ ‘แฟนพันธุ์แท้’ ตอน ‘แฟนพันธุ์แท้ Elvis’ ในฐานะที่เป็นแฟนเอลวิสรุ่นเยาว์ เมื่อปี 2001 หลังจากนั้น ก็เป็นช่วงที่จบการศึกษาชั้นมัธยม เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย สมาชิกวงต่างแยกย้ายไปไม่ได้กลับมารวมตัวเล่นดนตรีด้วยกันอีก ผมจึงรับงานแสดงเอลวิสในงานต่างๆ บ้างประปราย ตามการชักชวนของผู้ที่เคยเห็นผลงานและนักดนตรีที่เคยได้มีโอกาสร่วมงานกัน พร้อมกันนี้ ผมก็เริ่มเล่นดนตรีโฟล์คซองตามร้านอาหารเป็นงานอดิเรกในช่วงที่เรียนปริญญาตรีและปริญญาโท (ปี 2003-2010) ซึ่งส่วนมากจะเป็นเพลงสากลเก่าๆ ผสมผสานกับทเพลงเอลวิสอยู่บ้าง
 

 

จุดเริ่มต้นของการเป็น Elvis เมืองไทย

หลังจากที่ห่างหายจากวงการเพลงเอลวิสไปนานกว่า 5 ปี เนื่องจากการเรียนและความซบเซาของวงการเพลง ก็ได้มีโอกาสกลับมาเข้าสู่วงการเพลงอีกครั้งในปี 2012 โดย คุณวีรวงศ์ ลิ่วเฉลิมวงศ์ (วี welove) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเพจ We Love All About 50’s 60’s 70’s ทางเฟสบุค และเหล่าสมาชิกผู้รักเสียงเพลง ได้ชักชวนให้มาพบปะสังสรรค์กันในงาน Oldies Sixty Jam ครั้งที่ 3 ที่อาคารรัฐสภา มีนักร้องและนักดนตรีที่ผมไม่ได้พบมาเป็นเวลากว่า 5 ปี มาร่วมงานกันหลายคน ผมจึงตัดสินใจไปเป็นผู้ชม แต่คุณวีระวงศ์ได้แนะนำผมให้กับเหล่านักดนตรีและได้เชิญให้ขึ้นมาร้องเป็นคนสุดท้าย ทำให้มีโอกาสได้แสดงบนเวทีอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานจนนักดนตรีหลายคนแทบจะลืมหน้าผมไปแล้ว (ชมคลิปเหตุการณ์วันนั้น)


 

 
จากวันนั้น ชื่อของผมก็ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ได้รับเชิญไปแสดงตามงานต่างๆ ในฐานะนักร้องกึ่งอาชีพ จนมีผู้จัดรายการวิทยุที่เล็งเห็นผลงาน และได้จัดคอนเสิร์ตให้เป็นคอนเสิร์ตแรกของผมเอง ที่โรงแรม Royal กับงานคอนเสิร์ต ‘Elvis Never Die’ ในปี 2012 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก จนหลายคนเริ่มให้การยอมรับผมว่าเป็นเอลวิสรุ่นใหม่ จนกระทั่งได้รับเชิญจาก คุณจีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ คุณสุจินต์ ปุณณะหิตานนท์ และคุณจารึก วิริยะกิจ ให้ไปร่วมแสดงในฐานะแขกรับเชิญ เป็นหนึ่งใน Elvis Young Generation ในงานรำลึกเอลวิส ณ ศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งเป็นเวทีอันทรงเกียรติ ในปี 2013 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่ทำให้ผมก้าวผ่านคำว่า ‘นักร้องสมัครเล่น’ สู่ ‘นักร้องอาชีพ’ อย่างแท้จริง
 

 

Go Inter

งานแสดงเอลวิสมีเข้ามาเรื่อยๆ ตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากผู้ชมที่เคยเห็นผลงานการแสดงสดและจากคลิปวิดีโอต่างๆ ในเฟสบุคและยูทูป จนกระทั่งในปี 2014 ได้รับการติดต่อจากประเทศสิงคโปร์ ให้ไปร่วมแสดงในงาน ‘Elvis Is Back In The Building’ ซึ่งเป็นการแสดงที่รวมเอลวิสจาก 7 ประเทศทั่วทั้งเอเชีย ในฐานะ ‘เอลวิสจากประเทศไทย’ เพียงคนเดียวในงานนั้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไปแสดงเอลวิสยังต่างประเทศ
 

 

เป็นหนึ่งในสมาชิกวง "พิ้งแพนเตอร์"

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็เป็นช่วงที่ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับ คุณวิชัย ปุญญะยันต์ แห่งวงพิ้งค์แพนเตอร์ โดยบังเอิญจากงานสังสรรค์เล็กๆ ภายในบ้านของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง จากการแนะนำของ คุณรัชชัย รัชตะนาวิน คุณสิริมา สุนทรรังษี และคุณวิรัช อยู่ถาวร แห่งวงซิลเวอร์แซนด์ โดยในครั้งแรกไปร่วมแสดงเอลวิสร่วมกับวงพิ้งค์แพนเตอร์ ก่อนจะผันตัวมาเป็นสมาชิกวงคนล่าสุดในตำแหน่งมือกีตาร์ และคุณวิชัยก็ได้ผลักดันผมให้เป็น ‘เอลวิส’ แห่งวงพิ้งค์แพนเตอร์ พร้อมออกแสดงร่วมกับวงพิ้งค์แพนเตอร์เรื่อยมา


 

 
เรื่องราวชีวิตในวงการเอลวิสของผมได้รับความสนใจจากรายการ ‘ก(ล)างเมือง’ ช่อง ThaiPBS และรายการ ‘Beautiful Harmony’ 104.5 Love FM ได้ให้เกียรติถ่ายทำสารคดีชีวิตและสัมภาษณ์สดออกอากาศ ในช่วงปี 2014 และ 2015 ทำให้มีคนรู้จักชื่อ Elvich Phatihatakorn มากขึ้น มีผู้ชมติดตามผลงานมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ผมได้มีโอกาสไปร่วมแสดงในงานรำลึกเอลวิสในหลายจังหวัด รวมถึงงานรำลึกเอลวิสที่ประเทศสิงคโปร์อีกหลายครั้ง
 

 

ข้อมูลส่วนตัว
 

ปัจจุบันรับงานแสดงในรูปแบบโชว์ Elvis ทั้งในลักษณะโชว์เดี่ยวและโชว์ร่วมกับวงดนตรี
 
นอกจากนี้ยังเป็นมือกีตาร์ของวง Pink Panther
 
รวมถึงเล่นดนตรีในแนวโฟล์คซองที่ร้าน 9e furniture bar @ asiatique อีกด้วย
 

พบกับการแสดง tribute บทเพลงอันไพเราะอมตะของราชาเพลงร็อค เอลวิส เพรสลีย์ เพื่อให้งานปาร์ตี้ของท่านเป็นปาร์ตี้ที่พิเศษและประทับใจที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลอง งานเลี้ยงรุ่น งานเลี้ยงเกษียณ งานเลี้ยงบริษัท ฯลฯ

เพียงคุณมีความรักในเสียงเพลงของเอลวิส หรือต้องการดนตรีธีมเรโทร ย้อนยุค ร็อคแอนด์โรล เราสามารถจัดให้ท่านได้ ไม่ว่าจะเป็นนักร้องเดี่ยว หรือไปเป็นวงใหญ่ มีดีกรีเป็นตัวแทนเอลวิสจากประเทศไทยไปโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่นมาแล้ว

สนใจติดต่อ วิช : 0896666894 / line id : elvich.p
 
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รับงานทั่วราชอาณาจักรครับ

สโลแกน "ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ แวะชมSupport Us"

ติดตามทางไลน์ คลิกปุ่ม"เพิ่มเพื่อน"ด้านบน

#blog #เล่าเรื่อง #เพลงเก่า #คนเก่า #เล่าเพลง

    19