วี welove

20 ก.ค. 20222 นาที

ทำไม Bob Dylan จึงไม่คิดอยากเจอ Elvis?

ดูสไตล์เพลง บุคลิกของศิลปินระดับตำนานอย่าง Elvis Presley กับ Bob Dylan แล้วนึกไม่ออกเลยว่าทั้งคู่จะมีอะไรปะติดปะต่อกันได้บ้าง และเมื่อผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามนี้กับ Bob Dylan ความสงสัยนี้ก็กลายเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแทน เพราะ Bob Dylan เชิดชู Elvis ไว้สูงพอที่จะพูดว่า "ถ้าวันนั้นไม่มี Elvis วันนี้ก็จะไม่มี Bob Dylan"

ถ้างั้น..แล้วทำไม Bob Dylan จึงไม่คิดอยากเจอ Elvis?" ทั้งที่ตัวเขาเองมีศักยภาพเพียงพออยู่แล้วที่จะทำเช่นนั้น เรื่องมันยาวจึงต้องค่อยๆอธิบาย งั้นเราไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า..

อิทธิพลของ Elvis ที่มีต่อ Bob Dylan

Elvis มีอิทธิพลต่อบทเพลงของ Bob Dylan อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นหนึ่งในไอดอลของเขานั่นเอง เนื่องจาก Elvis เป็นภาพแห่งความสำเร็จในอนาคตที่เขาเคยคิดฝันไว้ และเมื่อ Elvis จากไปในปี 1977 เขาถึงกับเก็บตัวเงียบเป็นอาทิตย์

“I went over my whole life. I went over my whole childhood. I didn’t talk to anyone for a week after Elvis died. If it wasn’t for Elvis and Hank Williams, I couldn’t be doing what I do today.”

"ชีวิตทั้งชีวิต ชีวิตในวัยเด็กของผมล้มหายไป ผมไม่คุยกับใครเลยตลอดทั้งสัปดาห์หลังจาก Elvis เสียชีวิต ถ้าไม่ใช่ Elvis และ Hank Williams ผมคงไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้"

ดนตรีและเสียงเพลงของ Elvis เปลี่ยนชีวิตของ Bob Dylan When I first heard Elvis Presley’s voice I just knew that I wasn’t going to work for anybody and nobody was going to be my boss. Hearing him for the first time was like busting out of jail,”

"ครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงของ Elvis ผมรู้ได้ทันทีว่าผมจะไม่ทำงานให้ใคร และไม่มีใครจะเป็นเจ้านายผมได้อีกต่อไป ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงของ Elvis มันเหมือนปลดปล่อยตัวเองออกจากกรงขัง"

ความใกล้ชิดระหว่าง Elvis กับ Bob Dylan

ช่วงปี 1961 และ 1962 เป็นช่วงที่เพลงโฟล์คได้รับความนิยมสูงสุด Dylan ยังคงมีเวลาให้กับร็อคแอนด์โรลเหมือนเดิม เวลาอยู่คนเดียวที่ไม่มีใครรายล้อมเขาจะเปิดแต่แผ่นเสียงของ Elvis

Elvis เคยนำเพลงของ Bob Dylan มาบันทึก ได้แก่เพลง “Don’t Think Twice, It’s All Right,” ในปี 1971, เพลง “Blowin’ in the Wind” และ “Tomorrow Is a Long Time” ในปี 1966 ทำให้เขารู้สึกช็อคและรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเพลง “Tomorrow Is a Long Time” เป็นเพลงที่ Bob Dylan ชอบมากเป็นพิเศษ

ดังนั้นในปี 1969 Dylan จึงนำเพลง “(Now and Then There’s) A Fool Such As I” ของ Elvis มาบันทึกเป็นการตอบแทน โดยบันทึกในช่วงทำอัลบั้ม Self-Portrait ( แต่ไปปรากฏอยู่ในอัลบั้ม Dylan ที่ออกมาในปี 1973 ) และอีกครั้งบันทึกระหว่างทำอัลบั้ม Basement Tapes ในปี 1975 ซึ่งปรากฏอยู่ในอัลบั้ม The Basement Tapes Complete: The Bootleg Series, Vol. 11 ที่ออกมาในปี 2014

ทำไม Bob Dylan จึงไม่คิดอยากเจอ Elvis?

และนั่นน่าจะเป็นความใกล้ชิดมากที่สุดของทั้งคู่ที่เคยเกิดขึ้น เพราะทั้ง Elvis และ Dylan ต่างไม่เคยเจอกันเลย ทั้งๆที่ทั้งคู่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ แต่ Dylan กลับไม่ต้องการเจอ Elvis เพราะ Elvis ไม่ใช่คนเดียวกันกับที่เขาชอบในยุค 50s ซึ่งในยุค 60s Elvis เน้นไปกับการแสดง กว่าจะเรียกความนิยมกลับคืนมาได้ก็ต้องรอจนปี 1968 และอีกอย่างเขาได้ฟังจากปากของ George Harrison ในการเข้าพบ Elvis ของ The Beatles เต็มไปด้วยเหล่า "Memphis Mafia" รายล้อมเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมาก อีกทั้ง Elvis ไม่ได้ให้เกียรติ The Beatles อย่างที่ควรเป็น ทำให้ Dylan ไม่คิดอยากจะเจอ Elvis อีกต่อไป

Elvis กับ Memphis Mafia

Elvis เปลี่ยนมุมมองให้กับ Bob Dylan

เกี่ยวกับคำถามที่ว่า ถ้าแฟนเพลงอยากให้ร้องแต่เพลงเก่าบนเวทีคอนเสิร์ต เขาจะทำได้ไหม Bob Dylan ตอบไปว่า Elvis เปลี่ยนความคิดนี้ เขาเอาเพลงเก่ามาร้องในการแสดงทางทีวีปี 1969 แต่สิ่งที่เขานำเสนอจะไม่เหมือนกับในยุคแรกๆ ดั่งเช่นเพลง “That’s Alright Mama” ในยุค 1955 จะอ่อนไหวและทรงพลัง ส่วนเวอร์ชั่นในปี 1969 จะทรงพลังล้วนๆ

ตัว Bob Dylan เองก็เคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ต้องอยู่ให้ได้กับเพลงเก่าๆที่แต่งขึ้นมาเอง หลายคนอาจจะรับไม่ได้ที่จะต้องนำเสนอแต่เพลงเก่าๆเพราะวันเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แต่จะให้เขาทิ้งมันไปเลยคงไม่ได้ เพราะในบางสถานการณ์เพลงเก่าก็เหมาะกับคนฟังกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับเพลง แต่ถ้าจะให้เขาแต่งเพลงใหม่ในแบบเดิมๆ เขาคงทำไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าจะนำมาร้องใหม่ก็เป็นอีกเรื่อง

ขอบคุณข้อมูลจาก cheatsheet.com / หนังสือ "Bob Dylan: The Essential Interviews" By Simon & Schuster

วี welove / 20 July 2022

ติดตามทางเพจ Facebook

ติดตามทาง Line

ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info

    8