ความในใจของ Peta ลูกสาวเพียงคนเดียวของ Andy Gibb : แม้จะขื่นขม แต่สุดท้ายก็ "Happy Ending"

Matthew Hild ตั้งข้อสังเกตุภาพยนตร์สารคดีของ Bee Gees เรื่อง ‘How Can You Mend a Broken Heart’ ที่ออกมาในปี 2020 ว่า ช่วงที่หนังพูดถึง Andy นั้นจะเห็นว่าไม่มีใครอยากเล่าเรื่องราวชีวิตของเขา เขาอายุสั้นและประสบความสำเร็จมากมาย เราต่างก็รู้ว่าเขาเสียชีวิตอย่างไร แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขามีความเป็นอยู่อย่างไร นั่นแหละคือสิ่งที่ Matthew Hild อยากเขียนให้อ่าน

Matthew Hild ยังบอกอีกว่าเขาได้รับข้อมูลมากมายจากการสัมภาษณ์ผู้คนที่รู้จักและเคยทำงานกับ Andy ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยกเว้น Barry เพียงคนเดียวที่ไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับหนังสือของเขา

เป็นเรื่องเศร้าที่หลายคนมองว่า Andy Gibb ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย เป็นเพราะชื่อเสียงและด้วยความช่วยเหลือของพี่ๆ "Bee Gees" แต่ Matthew Hild ยืนยันว่า Andy มีความสามารถอย่างเหลือเชื่อ เขาเขียนเพลงเองตั้งแต่อายุยังน้อยตั้งแต่อายุเพียงแค่ 16 หรือ 17 ปี

Andy เขียนเพลงดีๆมากมายซึ่งปรากฏอยู่ในอัลบั้มชุดแรกของเขา เขารู้วิธีจัดการกับคนดูบนเวทีในฐานะนักแสดงได้เป็นอย่างดี ตัวของ Andy ก็ดูดีอยู่แล้วเป็นดาราที่ใจดี ใจกว้าง และมีนิสัยที่น่ารักมาก แต่พรสวรรค์ของเขาต่างหากที่ทำให้เขาดูโดดเด่น Matthew Hild รู้สึกประทับใจมากที่รู้ว่าหลายๆคนที่เขาได้พูดคุยด้วย ล้วนแต่คอยปกป้องเขาและเก็บความทรงจำดีๆของเขาไว้

ตอนที่ Bee Gees มีเพลงฮิตเพลงแรกในปี 1967 Andy ยังเป็นเด็ก ตอนนั้นเขาอายุเพียง 9 ขวบ และ Barry เป็นคนสนับสนุนให้เขาทำในสิ่งที่ชอบ นั่นก็คือด้านดนตรี จึงมอบของขวัญเป็นกีต้าร์ตัวแรกให้กับ Andy ซึ่งตัดสินใจทิ้งการเรียนตั้งแต่อายุ 13 ปี (ปี 1971)

ในปี 1974 Andy มีวงแรกของตัวเองชื่อ Melody Fair (ได้ชื่อมาจากชื่อภาพยนตร์ Melody Fair) แต่อยู่ไม่นานวงก็แตกในปีนั้น Barry จึงแนะนำให้น้องชายลองไปหาประสบการณ์ตั้งวงที่ออสเตรเลียเหมือนอย่างที่ Bee Gees เคยทำ และ Andy ก็มีวงที่สองที่นั่นชื่อวง Zenta

ในปี 1976 Andy อายุครบ 18 ปี เขาได้แต่งงานกับ Kim Reeder แฟนสาวชาวออสเตรเลีย แล้วมาพากันย้ายมาที่ไมอามี่ รัฐฟลอริด้าในปีถัดมา แต่อยู่ด้วยกันแค่ 18 เดือนทั้งคู่ก็ต้องหย่าร้างเพียงแค่ 10 วันก่อนที่เธอจะคลอดลูกสาว "Peta" ในปี 1978

ในปี 2017 Peta Weber วัย 39 ปีลูกสาวเพียงคนเดียวของ Andy Gibb เพิ่งออกมาพูดถึงคุณพ่อของเธอเป็นครั้งแรกว่า เธอไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับพ่อของเธอเลย ช่วงที่เธอกำลังเติบโต เธอรู้แค่ว่าพ่อเป็นคนดังเช่นเดียวกันกับพี่ๆของพ่อ (Bee Gees) แต่สำหรับเธอแล้วพ่อเป็นแค่คนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์เท่านั้น

"As I grew I learned that he was famous, and that he had famous siblings, but for me he was just a guy on the end of the telephone line." - Peta Weber

Peta เล่าต่อว่าครั้งหนึ่งแม่ของเธอชี้ไปยังทีวีรายการ "Solid Gold" แล้วบอกเธอว่า "That's your dad" เธอภาวนาอยู่เสมอว่าเธอกับพ่ออาจจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกันมากกว่านี้ เธออยากอยู่ใกล้พ่อเหมือนลูกสาวคนอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่าจะมีแรงต้านจากภายนอกที่สมคบคิดทำให้เธอกับพ่อไม่ได้เจอกัน

"I always wished we had a more of a chance to get to know each other. I wanted to be close to him, like any daughter wants with her father. But outside forces conspired against us." - Peta Weber

Andy Gibb ก็เหมือนดาราดังในยุคนั้นติดอยู่กับชื่อเสียงและงานปาร์ตี้ เมื่อตัวเองเริ่มดัง ครอบครัวก็เริ่มอยู่ไม่มีความสุข เมื่อภรรยายื่นคำขาด Andy ก็ยังไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ สุดท้ายก็ต้องต่างคนต่างอยู่ และจบลงด้วยการแยกทางกัน อดีตภรรยาย้ายกลับออสเตรเลียพร้อมลูกในท้อง

แต่ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย เพราะภรรยาท้องโตใกล้คลอดแล้ว..ทำไมจึงยอมหย่า ทิ้งลูกสาวคนเดียวของเขาต้องเผชิญเรื่องราวเหล่านี้ และก็ไม่มีใครคาดคิดว่าอีก 10 ปีต่อมาเธอก็ต้องสูญเสียพ่อ ปิดโอกาสที่ทั้งคู่จะได้เจอกันสักครั้ง..ไปตลอดกาล สิ่งที่เธอสรุปภาพรวมของคุณพ่อดูค่อนข้างห่างเหิน

“There was nothing great about having a celebrity dad. He was just a guy on the end of the phone." - Peta Weber

(ไม่ได้รู้สึกดีเลิศอะไรเลยที่มีพ่อเป็นคนดัง พ่อก็เป็นแค่คนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์)

อย่างไรก็ตาม Peta ก็ได้รับการติดต่อจากลูกสาวของ Maurice รุ่นลูกของ 4 พี่น้องตระกูล Gibb เพื่อรวมกลุ่มทำอัลบั้ม Gibb Collective: Please Don't Turn Out The Light ในปี 2016 และตอนนี้ Peta ก็เริ่มรู้สึกดีกับตระกูล Gibb หลังจากผ่านความเจ็บปวดมาหลายปี และเป็นที่มาของการพูดถึงคุณพ่อของเธอเป็นครั้งแรก..Happy Ending

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บ smoothradio

วี welove / 12 March 2023 (updated 2024)
 
 ติดตามทางเพจ Facebook
 ติดตามทาง Line
 ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info